แบกเป้ตะลอนจีน ตอน 4 เที่ยวตัวเมืองฉงชิ่ง ฟิลลิ่งสองสมัย

March 21, 2016
Scroll Down

ผมพาทุกท่านไปร่วมดื่มด่ำบรรยากาศมาสามตอนแล้ว ซึ่งก็เป็นการเที่ยวแบบเดิน เดิน และเดิน วันนี้วันที่สี่ จึงเป็นเหมือนวัน พักร่าง ครับ เราจะเที่ยวในเมืองฉงชิ่งกัน มาดูซิว่า เมืองมหานครแห่งนี้ ตัวเมืองจะมีอะไรให้เชยชมบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ก็ตามผมไปเที่ยวฉงชิ่งได้เลยคร้าบ

IMG_9481

ตอนเช้าวันใหม่ ผมก็ตื่นแต่เช้าตรู่ และออกมานั่งเล่นที่ลอบบี้ของโรงแรมครับ ระหว่างนั้นมันก็เช้ามาก ไม่มีใครเลยนอกจากผมกับแขกคนหนึ่ง ผมก็เลยทักทายไป แขกที่มาพักมาเที่ยวคนเดียวครับ และเราก็เลยชวนกันไปเที่ยวด้วยกันสำหรับทริปวันนี้ เพื่อนคนใหม่มีชื่อว่า “ลีโอ” เป็นชายหนุ่มผู้มาจากเมืองหางโจวครับ ลีโอบอกว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่เอาจริงๆแล้ว เป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษเลยแหละ แค่พูดตะกุกตะกักนิดหน่อยแค่นั้นเองครับ พวกเราเริ่มต้นด้วยการไปทานข้าวกันก่อน และหลังจากนั้นก็นั่งแทกซี่ไปยังจุดหมายแรก คือ มหาศาลาประชาคม (ต้าลี่ถัง) เมืองฉงชิ่ง

IMG_9307

ด้วยความที่สถานที่นี้อยู่ห่างจากโรงแรมของพวกเราประมาณ 2-3 กิโลเมตร พวกเราทั้งสองตัดสินนั่งแทกซี่ดีกว่าครับ ค่ารถแทกซี่ประมาณ 12  หยวน ตอนนั้นเจ้าลีโอก็แย่งออก ผมก็บอกไปว่า ไม่ต้อง เดี๋ยวค่าแทกซี่ผมออกเอง (คนจีนมีนิสัยชอบเลี้ยงแขกครับ มื้อเช้าลีโอก็แย่งจ่ายแทนผมไปแล้ว)

ศาลาประชาคม (ต้าหลี่ถัง) Chongqing People’s Auditorium

ศาลาประชาคมนี้เป็นศาลาที่จำลองมาจากหอเทียนถานเมืองปักกิ่งครับ (ข้อมูลส่วนหนึ่งฟังมาจากลีโอ เพื่อนผู้ไม่ได้ภาษาอังกฤษ แต่อธิบายข้อมูลด้วยภาษาอังกฤษเป็นฉากๆ ฮ่าๆ) สถานที่แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองฉงชิ่งเลยนะครับ มีการเอาลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมของยุคราชวงค์หมิงและชิงมาผสมผสานเข้าด้วยกัน มีสีสัน รูปแบบการนำเสนอที่โดดเด่นมาก และตรงนี้ก็ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วย ลีโอบอกว่าที่นี่ตอนนี้เอาไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองครับ

IMG_9271

เมื่อเดินเขาไปภายในอาคารเราจะเจอโรงละครของประชาชนครับ สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 4,000 คนเลยนะครับ ยิ่งใหญ่มากตามสไตล์พี่จีน ทำอะไรต้องทำใหญ่ๆเข้าไว้

IMG_9272

หลังคาของศาลาประชาคมครับ ทำเป็นโดมใหญ่ครอบเอาไว้ โอ่อ่ามากๆ หลังจากที่ชมโรงละครแล้ว พวกเราก็เดินลัดเลาะไปทีละห้องครับ ตอนที่ผมไปที่นี้นำผลงานศิลปะภาพวาดมาจัดแสดงครับ ผมชอบมาก เพราะชื่อชอบงานศิลปะอยู่แล้ว ดูได้เรื่อยๆ เดินไป ถ่ายรูปไปตามประสา

IMG_9273

ภาพที่นำมาจัดแสดงมีแต่สวยๆครับ ลีโอเล่าให้ฟังว่าบางภาพเป็นเรื่องราวในยุคสงคราม เพราะฉงชิ่งเคยเป็นเมืองบัญชาการตอนมีสงครามจีนกับญีปุ่นมาก่อน แต่หลายๆเรื่องผมก็ลืมๆครับ แฮะๆ

IMG_9281

ภาพด้านบนเป็นเหมือนนายทหารคนสำคัญอะไรสักอย่างครับ ผมก็ดันลืมชื่อไปเสียนี่ ดูแต่ภาพเพลินๆไปละกันนะครับ

IMG_9283

ภาพนี้เป็นภาคสื่อถึงเยาวชนในยุคสงคราม สังเกตจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ครับ  คนจีนหลายๆคนจึงไม่ชอบญี่ปุ่นเอามากๆ เพราะเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นี้แหล่ะครับ

หากต้องการเข้าไปดูภายในศาลาแห่งนี้ จ่ายค่าเข้าด้วยนะครับ คนละ 10 หยวน ผมว่าเข้าๆไปเถอะครับ ไหนๆก็มาแล้ว แค่ได้เห็นผลงานภาพวาดจากจิตรกรชั้นครู ก็คุ้มค่าตั๋วไปแล้วแหล่ะ

พิพิธภัณฑ์ซานเสีย Chongqing China Three Gorges Museum

สถานที่ถัดมา อยู่ตรงข้ามศาลาประชาคมนั้นเลยครับ หันหลังกลับมาก็จะเจอเลย อาคารนี้มีขนาดใหญ่มาก เป็นที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและวิถีชีวิตของคนพื้นถิ่นนี้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีครับ แต่ในข้อมูลที่ผมอ่านในเว็บบอกว่าจำกัดคนเข้าชมด้วย ที่วันละ 5,000 คน

IMG_9305

ภายนอกของตัวอาคารมีการออกแบบโดยมีโดมเชื่อมติดกำแพง ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมทางประวัติษสตร์และสื่อถึงโครงการก่อสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำ Three Gorges Project ด้วยครับ

IMG_9313

ในนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด 42,497 ตารางเมตครับ ข้างในมีการจัดแสดงหลากหลายประเภทมากครับ เช่น การจัดแสดงเกี่ยวกับภูมิประเทศของฉงชิ่ง เกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อน เกี่ยวกับชนเผ่าของผู้คนแถบเสฉวน เกี่ยวกับเหรียญ เกี่ยวกับสงคราม เกี่ยวกับรูปปั้น โอย เยอะมากครับ ฮ่าๆ ต้องไปดูเอง

IMG_9317

การจัดแสดงข้างในทำได้ดีมากครับ เสียอย่างเดียวไม่มีไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ ทำให้ต้องอ่านเอาแต่ละอย่าง ซึ่งข้อมูลมันก็เยอะครับ ดีหน่อยที่ลีโออ่านแล้วก็ช่วยอธิบายบางจุดให้ผมฟัง

IMG_9326

แถบนี้เป็นย่านของสามก๊กด้วย ก็มีห้องพูดถึงสามก๊กครับ แต่ผมไม่เคยอ่านเลยไม่รู้อะไรมาก แฮะๆ ภาพวาดสงครามสามก๊กใหญ่มากๆ

IMG_9371

ห้องนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจมากครับ เป็นห้องจัดแสดงโลงศพของกษัตริย์ครับ (ลีโอบอก) ลีโอเล่าว่าหินที่เห็นเนี่ยเคยเป็นที่บรรจุพระศพของกษัติย์ย่านนี้ ทำมาจากหินที่มีการแกะสลักเรื่องราวต่างๆอยู่รอบๆโลงครับ ห้องนี้มีการทำคล้ายๆภายในสุสานด้วย ลายต่างๆที่เห็นจัดแสดงในห้องนี้ล้วนมาจากการลอกลายจากสุสานกษัตริย์นี้ ครับ

IMG_9375

มีคนเข้ามาดูเรื่อยๆครับ วันที่ผมไปคนไม่เยอะ อาจจะเพราะยังเช้า หรือคนไม่ค่อยชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็ไม่รู้ คิดอีกแง่ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกัน ผมกับลีโอนี่คลั่งไคล้พิพิธภัณฑ์เหมือนกัน เราใช้เวลาดูแต่ละห้องไปเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลิน

IMG_9376

นี่ครับ ตัวอย่างการแกะสลักหินที่ว่า

IMG_9397

ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้ความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์มีเยอะมาก จีนมีทั้งหมด 56 ชนเผ่าครับ ชนเผ่าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Guizhou (ทริปหน้าผมจัดแน่ อิอิ)

IMG_9429

ของที่จัดแสดงหลายๆชิ้นเป็นมรดกคู่บ้านคู่เมือง งานหัตถกรรมบางอย่าง หาคนทำได้เหลือน้อยเต็มทน ผมใช้เวลาครึ่งวันสำหรับชมสถานที่สองสถานที่นี้ครับ อ้อพิพิธภัณฑ์นี้มีห้องจัดแสดงหลายชั้นนะครับ จะว่าไปผมก็ไม่แน่ใจว่ามีเครื่องแปลภาษาหรือเปล่า (อาจจะมีแต่เสียเงินค่าเช้า)

หงหยาต้ง แหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA

หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ผมก็มาเดินเล่นที่อาคารคอมเพล็กซ์ในสไตล์สถาปัตยกรรมจีนโบราณครับ เรียกว่าหงหยาต้ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแยงซีเจียงเลย ซึ่งนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของมหานครฉงชิ่งแห่งนี้  ที่นี้เป็นที่ไว้ขายของครับ มีอาหาร มีของฝาก ให้เราเลือกซื้อหาได้อย่างจุใจ เรื่องราคา ผมว่าก็รับได้นะ ไม่ได้แพงมากสักเท่าไหร่

cover3

หงหยาต้ง เป็นสถาปัตยกรรมที่สูงมากครับ คือสูง 16 ชั้น! สร้างขึ้นตามแนวภูเขา มีการทำเป็นน้ำตก สะพาน ถ้ำ ทางเดิน เรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจจริงๆ  และถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างยุคใหม่ แต่เพราะว่าความยิ่งใหญ่และความสวยงาม หงหยาต้ง จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 4A ของจีนไปในที่สุด

IMG_9481

ด้วยความที่หงหยาต้ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแยงซีครับ ผมก็เดินเล่นริมน้ำไปด้วย ไปดูว่ามีอะไรให้ชมบ้าง ก็ไปเจองานกราฟิตี้ครับ ไม่รอช้า ถ่ายรูปสักใบสองใบ

IMG_9506

ภาพกราฟิกนี้จะมีอยู่ตามตึกที่สร้างเลียบแม่น้ำครับ ฝั่งตรงข้ามหงหยาต้งจะมีบันไดให้เราเดินลงไปริมแม่น้ำ ก็เดินลงไปได้ แต่อย่าไปเล่นน้ำนะครับ แม่น้ำมันลึกมาก

IMG_9490

ยอมรับว่าเขาสร้างได้สวยงามจริงๆ ถ่ายภาพเก็บความทรงจำรัวๆๆ

IMG_9517

แต่ละชั้นก็มีของวางขายแตกต่างกันออกไป เดินไปครับ เดินให้ครบทุกชั้น ขาพังช่างมัน เดินไว้ก่อน ฮ่าๆ

IMG_9550

ตอนกลางคืน หงหยาต้ง คือจุดชมวิวที่สวยงามเลยแหละ ใครใคร่จะนั่งเรือสำราญชมเมืองยามราตรีก็จัดไปครับ แต่ผมไม่ได้นั่งนะครับ

IMG_9606

กลางคืนที่นี่จะครึกครื้นมาก มีคนมาดื่มด่ำความงามยามราตรีเยอะมาก ด้านบนจะมีบรรดานักเปิดหมวกมาเล่นดนตรีด้วยครับ เห็นแล้วทึ่ง ขนาดนักเปิดหมวกร้องเพลง ยังร้องเพราะเวอร์ขนาดนี้ แล้วพวกศิลปินที่ชนะการประกวดต่างๆของจีน จะเสียงดีขนาดไหน พี่จีนนี่สุดยอดจริงๆ

cover3

ตรงหงหยาต้งให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในยุคโบราณ เดินข้างในก็เหมือนเดินย้อนยุคครับ แต่พอไปย่าน Jie Fang Bei แค่นั้นแหละครับ กลายเป็นแหล่งไฮโซโก้เก๋ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่หมดเลย ตึกราสูงตั้งตระหง่านแย่งกันโดดเด่น ซึ่งตรง Jie Fang Bei ก็มีจุดเช็คอินอีกจุดสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็คือ

อนุสาวรีย์เจี่ยฟั่งเปย ถนนคนเดิน People’s Liberation Monument

IMG_9612

อนุสาวรีย์นี้เรียกอีกอย่างว่าหอนาฬิกาครับ อยู่ตรงย่านใจกลางของฉงชิ่ง เป็นอนุสาวรีย์ที่รำลึกถึงการปลดปล่อย หลังจากการต่อสู้กันระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในช่วงสงคราม เพราะฉงชิ่งเป็นเมืองบัญชาการมาก่อน ปัจจุบันที่นี้เต็มไปด้วยห้างแบรนด์เนมทั้งนั้นเลย และที่นี่ก็อยู่ไม่ห่างจากหงหยาต้งเลยนะครับ เดินเที่ยวได้ ซึ่งจะเห็นว่าตรงหงหยาต้งนี่ให้ความรู้สึกจี๊นจีน แต่พอมาตรงนี้ อย่างกะไปยุโรป ฮ่าๆ

IMG_9609

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเพื่อนใหม่ ลีโอ ครับ ลีโอบอกว่าถ้ามีโอกาสไว้เที่ยวด้วยกันอีก และถ้าไปเมืองหางโจว ต้องบอกด้วยนะ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวชมบ้านชมเมือง ผมก็บอกลีโอไปว่าถ้ามาเมืองไทยก็บอกผมด้วย เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวเมืองไทย

สรุปกิจกรรมเที่ยววันนี้ครับ

  • นั่งแท็กซี่ไปศาลาประชาคม ราคาประมาร 12 หยวน
  • ค่าเข้ามชมศาลาประชาคม คนละ 10 หยวน
  • ชมพิพิธภัณฑ์ Three Gorge Museum ฟรี
  • เดินเที่ยวหงหยาต้ง
  • เที่ยวอนุสาวรีย์ปลดปล่อย หรือหอนาฬิกา

นี่แหละครับ เสน่ห์ของเมืองฉงชิ่ง มหานครของจีน ที่มีแหล่งท่องเที่ยวดีๆ รอให้เราไปเที่ยวมากมาย ถ้ามีเวลาไม่เยอะก็ลองจัดๆดูครับว่าอยากจะเห็นอะไรบ้าง มากน้อยแค่ไหน แล้ววางแผนดูดีๆ เดี๋ยวตอนหน้าจะพาบินภายในประเทศ ไปเจาะเวลาหาจิ๋นซีครับ โอย ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะมันคือสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกยุคโบราณ!!  แล้วเจอกันครับ

EN / FR

© Copyright BackpackStory.com.

Close