แบกเป้ตะลอนจีน ตอน 3 มรดกโลกสวยสุดใจ เที่ยวในอู่หลง

March 20, 2016
Scroll Down

วันนี้เป็นวันที่สามของการเดินทางในประเทศจีนรอบนี้แล้วนะครับ หลังจากที่เมื่อวานผมไปเทียวผาหินแกะสลักที่ต้าจู๋ และประทับใจกับความยิ่งใหญ่ของผลงานแกะสลักหินอันน่าทึ่งแล้ว วันนี้ผมก็จะไปต่อที่สถานที่ถัดไป ก็คือ อู่หลงนั่นเอง

อู่หลงนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ทางธรรมชาติที่มีความน่าสนใจครับ เพราะเป็นภูเขาสูงที่มีกลุ่มอุโมงค์มากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก และขนาดใหญ่มาก แถมเป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำของจีนด้วย แบบนี้บักสนไม่พลาดอยู่แล้ว

IMG_8838

ผมเลือกที่จะจอง One Day Trip กับทางโรงแรม เพราะเหตุผลเหมือนเดิมครับ สบายกว่า ด้วยราคา 380 หยวน (ราคาที่นี้แพงมาก ต้องทำใจครับ คนจีนคนต่างชาติราคาเท่ากันหมดเลย) เอาหล่ะ หลังจากซื้อตั๋วแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางได้เลย

ตอนเช้าแปดนาฬิกา ทางโรงแรมมาส่งเราที่ถนน และมีแท็กซี่มารอรับครับ และนี่คือ “จุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันยิ่งใหญ่” หนึ่งในเหตุการสำคัญอันมิรู้ลึมของทริปนี้ คือในแท็กซี่ก็มีคุณป้าสองท่านนั่งอยู่ก่อนแล้ว พวกท่านก็จะไปเที่ยวอู่หลงเหมือนกัน หลังจากที่พวกเราขึ้นรถไปทั้งคู่ก็ถามพวกผมเป็นภาษาจีนครับ ผมก็ตอบภาษาจีนกลับไปแบบถูๆไถๆ ถามกันไปกันมา ป้าบอกว่าป้าเป็นคนซีอาน ผมก็บอกว่า อ้าวเหรอครับ ผมเองก็กำลังจะไปซีอานหลังจากเที่ยวฉงชิ่งเสร็จ

IMG_8929

พอรู้แบบนั้นป้าก็แนะนำใหญ่เลยครับว่า ไปโน่นนี่นะ ซึ่งผมก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ก็ได้แต่อือออคล้อยตาม แต่ดูแล้วป้าคงเห็นเราไม่เข้าใจ เลยวาดรูปให้ดู เป็นแผนที่ไปเที่ยว กำแพงเมืองซีอานด้านทิศใต้ และแนะนำเรื่องสุสานจิ๋นซีครับ

ผมเองก็งัดเอาเครื่องมือแปลภาษามาให้คุณป้าได้อ่านในสิ่งที่อยากสื่อสาร ตลอดทั้งทริป พวกเราก็เที่ยวด้วยกันอย่างเมามันมากๆ

การเดินทางไปยังอู่หลงไกลมากครับ ออกจากโรงแรมแปดโมงเช้า ไปถึงโน่นบ่ายโมง โอ้โห กว่าจะได้เดินเที่ยว

IMG_8516

จุดแรกที่เราเที่ยวก็คือ “ระเบียงกระจก” ครับ เป็นระเบียงลอยฟ้าขนาดใหญ่ ที่เป็นกระจกใสกิ๊ง เดินแล้วมองเห็นวิวเบื้องล่างที่อยู่ต่ำไปเป็นกิโลเมตร คนที่กลัวความสูงอยางเพื่อนผมนี่ขาสั่นไปเลย  ราคาตั๋วขึ้นระเบียงกระจกนี้ต้องจ่ายเพิ่มคนละ 20 หยวนนะครับ มันอยู่ก่อนถึงเข้าเข้าไปยังลิฟต์แก้ว หาให้เจอนะครับ

กระจกที่ว่าใสมาก และอยู่สูงมาก ระหว่างที่ผมกำลังเดินบนกระจกอยู่นั้น มีเหตุการณ์เกิดขึ้นคือ เพื่อนผมลื่นครับ ล้มกระแทกกระจกดังปัง! ทุกคนกรี๊ดดดดดด ผมก็ตกใจ โชคดีที่กระจกแข็งแรง ไม่ร้าว ส่วนเพื่อนผมก็บอบช้ำไปตามระเบียบ ต้องระวังหน่อยนะครับ เพราะตอนผมไปมันมีฝนนิดๆด้วย พื้นเลยลื่น

IMG_8524

นี่ครับ เวลามองลงไป หวิวไม่ใช่เล่น สำหรับคนกลัวความสูงนี้คงขาสั่นใจสั่น แต่สำหรับผม ชิลมาก ชอบท้าทายอยู่แล้ว เลยโคตรสนุก เดินไปถ่ายรูปไป ส่วนเพื่อนผม หนีไปอยู่บนฝั่งแล้วครับ ฮ่าๆ

IMG_8552

พอเสร็จจากระเบียงกระจกลอยฟ้าแล้ว เราก็เดินไปลงลิฟต์ที่ริมหน้าผาครับ เพื่อจะได้เดินชมวิวทิวทัศน์กัน ทริปนี้เป็นทริปแห่งการเดินจริงๆ เดินเยอะมาก วันหนึ่งๆ เดินกันเป้นสิบๆกิโลเมตร  ก่อนจะถึงทางเข้า มีโมเดลตัวละครจากเรื่อง Transformer ด้วย เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในฉากของหนังหลายๆเรื่อง ผมก็เลยขอเก็บภาพไว้ด้วยสักหน่อย

IMG_8715

วิวระหว่างทาง “สวยงามจับใจ” สำหรับคนบ้าแลนด์เสคปอย่างผม นี่ฟินโคตรๆ เดินไป ถ่ายรูปไป แต่ฟ้าไม่สวยครับ ถ่ายภาพมาเลยดูครึมๆ มันไม่ได้แบบที่ตาเห็น โดยเฉพาะตรงอุโมงค์ขนาดใหญ่ ที่ใหญ่เวอร์วังมาก ถ่ายยังไงก็ไม่ได้เหมือนตาเห็น เห้อ

IMG_8687

หลังจากเดินมาสักพัก ก็มองเห็นจุดเช็คอินที่สำคัญ ที่เรามักเห็นในโบรชัวร์โปรโมทอู่หลง นั่นก็คือโรงเตี้ยมโบราณที่อยู่กลางหุบเขาแห่งนี้ครับ เป็นโรงเตี้ยมที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังด้วยนะครับ เช่น The Curse of Golden Flower และเรื่อง Transformer 4

IMG_8756

บรรยากาศข้างในก็จะเป็นอาคารจีนนี่แหละครับ มีจอทีวีเล่าเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ และก็มีนักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปกัน ผมก็ใช้เวลาในนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเดินออกไป เพราะเป้าหมายของเรายังมีอีกเยอะ แถมไกด์บอกว่าให้ไปเจอกันที่จุดจอดรถบัสตอนสี่โมงเย็นด้วย

IMG_8809

ระหว่างทางที่เดินออกมา ก็ผ่านสระน้ำสวยๆ มีผาอุโมงค์กระบี่ด้วย ยิ่งยามที่มันสะท้อนกับผืนน้ำสีฟ้าเบื้องล่าง ช่างเป็นโมเมนต์ที่ประทับใจจริงๆ เราเดินผ่านจุดสวยๆเยอะครับ แต่ก็รีบกันหน่อย เพราะเดี๋ยวไปไม่ทันที่เขานัด

IMG_8880

หลังจากถึงที่เขานัดแล้ว ผมก็เข้าใจวาหมดแล้วสำหรับวันนี้ จริงๆเท่าที่เห็นก็อิ่มโคตรๆนะครับ คุ้มค่ากับการนั่งเครื่องบินข้ามประเศเพื่อมาเที่ยวยังสถานที่แห่งนี้ แต่ยังครับ ยังไม่หมด เพราะว่าไกด์บอกว่า เราจะไปอีกที่ ผมก็ห๊ะ มีอีกเหรอ ไปไหน?

อ้อ แทรกเรื่องนิดนึงครับ คือตอนที่พวกเราคุยกับคุณป้า มีบางครั้งที่เราสื่อสารกันไม่เข้าใจเพราะว่าเครื่องมือแปลภาษามันทำงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แปลแล้วผมก็ยังงงๆว่าความหมายจริงๆคืออะรกันแน่ ก็มีคุณน้าท่านหนึ่ง ช่วยแปล และคุณหน้าก็พูดภาษาอังกฤษดีสเสียด้วย พอรู้ว่าพวกผมเป็นคนไทย ก็ร้องดีใจใหญ่ ร้อมบอกว่า เขาไปเมืองไทยมาห้าครั้งแล้ว โดยเฉพาะเกาะช้าง ชอบมากๆ และเราก็กลายเป็นเพื่อนกัน ทั้งทาง weChat ด้วย ฮ่าๆๆ ทริปนี้มีแต่มิตรภาพมากจริงๆ

โอเค มาต่อกันที่เป้าหมายถัดไป เรานั่งรถไปประมาณครึ่งชั่วโมงครับ ตอนนั้นในหัวของผมงง ว่าที่จะไปถัดไปคืออะไรหว่า ลุ้นๆ

พอถึงจุดลงรถแล้ว เราก็เดินลงอุโมงค์ครับ ยาวมากๆ นับถือคนสร้างจริงๆ เดินไปก็ตื่นเต้นไป เพราะมันไม่ได้อยู่ในโปรแกรมทัวร์ที่เราวางแผนไว้ไงครับ

พอหลุดจากอุโมงค์ วิวเบื้องหน้า แทบจะทำให้ผมกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น เพราะมันสวยมาก มันคือวิวทิวทิศน์ที่อยู่ใจกลางหุบเขา และตอนนี้เราเพิ่งเดินลงมาจากบนหุบเขาได้ไม่เท่าไหร่ เราต้องเดินตามบันไทยลัดเลาะหุบเขาเหล่านี้เพื่อลงไปที่ด้านล่างของหุบเขาครับ เห็นทางเดินแล้ว เพื่อนผมบอกว่าท้อเลย ทำไมมันยาวแบบนี้ ย่ิงเพื่อนผมกลัวความสูงด้วย ทริปนี้ของเพื่อนเลยไม่ฟินสำหรับเพื่อนเพราะกลัว ฮ่าๆ

IMG_8917

ผมนี่สิครับ หัวใจเต้นตึกตัก ยิ่งเป็นคนบ้าธรรมชาติอยู่แล้ว แถมมาเจอวิวแบบไม่คาดฝันมาก่อน ยิ่งตื่นเต้นใหญ่ เดินไปถ่ายรูปไปเพลินมากครับ ยิ่งไต่ระดับลงเขาไปเรื่อยๆ วิวก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น

IMG_9143

ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ ความสวยงามก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ผมได้แต่ร้องโอยๆ ทำไมสวยแบบนี้ ธรรมชาติเมืองจีนอลังการหน้าชาวบ้านไปมากมายเสียเหลือเกิน น้ำก็เป็นสีฟ้า ผมเดินไปถ่ายรูปไป แทบอยากจะหยุดเวลาเอาไว้อย่างนั้น

IMG_9148

นี่ขนาดตอนที่ไปเป็นหน้าแล้งนะครับ ยังเขียวขจีได้ขนาดนี้ ดูสีน้ำสิครับ ฟ้ามากๆ ถ้ามาในหน้าฝน ผมว่าก็น่าจะสวยไปอีกแบบ เพราะลำธารตรงนี้คงจะมีน้ำไหลให้ดูเต็มตามากขึ้น

IMG_9158

ยิ่งเดินยิ่งสนุก ลืมไปเลยครับว่า ที่เดินๆมาหนะกี่กิโลเมตรแล้ว รู้แต่ว่า เดินไปหยุดถ่ายรูปไป ก็นานๆจะมีโอกาสมาทีนี้นา ขอจัดหนักจัดเต็มซะเลย

IMG_9053

ระหว่างทางก็จะเจอน้ำตกหุบผาสวรรค์ครับ สวยงามอีกแล้ว ถ่ายรูปกันรัวๆเลย ตอนนี้ผมเดินเที่ยวคนเดียวแล้วนะครับ เพื่อนผมกลัวความสูง เขารีบเดินบึ่งนำหน้าไปที่ทางออกแล้ว ฮ่าๆ

IMG_9171

สำหรับทริปวันนี้ “อิ่มอกอิ่มใจ” มากครับ ใครที่มาเที่ยวก็ไม่อยากให้พลาดจุดนี้เลย จะมาพักแถวอู่หลงสักคืนก็ได้ หรือจะเที่ยวแบบไปกลับแบบผมก็ได้ครับ

สรุปข้อมูลการเดินทางสำหรับวันนี้

  • ซื้อตั๋วเที่ยวแบบ One Day Trip จากโรงแรม ราคา 380 หยวน
  • รวมค่าอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์แล้ว
  • มีรถแท็กซี่มารับที่โรงแรม
  • รถส่งกลับที่พักแถว Jie Fang Bei ซึ่งก็อยู่ย่านโรงแรมผมพอดี
  • ค่าขึ้นไปเดินบนระเบียงกระจก 20 หยวน (ไม่รวมในทัวร์)
  • ค่านั่งรถบัสออกจากอู่หลง เพื่อมายังจุดจอดรถ ถ้าไม่อยากเดิน ซื้ออีก 15 หยวน (ไม่รวมในทัวร์) ถ้าจะเดินก็ประมาณกิโลกว่าๆครับ
  • ทริปนี้เดินเยอะมาก ฟิตร่างกายให้ดีนะครับ และเตรียมรองเท้าสำหรับเดินไปด้วย
  • ข้างล่างหุบเขาอากาศเย็นมาก เสื้อกันหนาวเอาแบบหนาๆไปเลย
  • อุทยานเปิดถึงแค่ 17:00 น. เท่านั้นนะครับ
  • ค่าเข้าชม Wulong Karst ราคา 135 หยวน
  • ค่าเข้าชมจุดที่สองที่ต้องเดินเลียบหน้าผา 115 หยวน
  • จำไว้เสมอว่าการซื้อตั๋วรถไฟ ซื้อตั๋วเข้าชม ใช้ Passport ในการยืนยันตัวตนนะครับ อย่าลืมพกติดตัวด้วย

EN / FR

© Copyright BackpackStory.com.

Close