สวัสดีครับ กลับมาเจอกันในเรื่องราวการเดินทางคร้ังใหม่ของผมอีกนะครับ ไม่น่าเชื่อนะครับว่าบทความล่าสุดที่ผมเขียนลงในเว็บนี้คือเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว! ซึ่งตอนนั้นก็เพิ่งจะเรียนสคูบาด้วย มาครั้งนี้ผมก็ดำน้ำไปทะลุ 100 Dives แล้วหละครับ แถมมีเพิ่มเติมคือเรียนฟรีไดฟ์ด้วย Level 1 ครับ หลังจากที่ฝังตัวอยู่เกาะลันตามา 6 เดือน พอเข้าฤดูมรสุม ผมก็เลยหาที่เที่ยวทะเลใหม่
เกาะเต่าคือตัวเลือกแรกที่ผมสนใจ เพราะได้ยินคนพูดถึงเยอะ ทั้งในแง่ดีและไม่ดีครับ 55 จากที่เคยได้ยินมาก็จะประมาณว่าน้ำใสจริงอะไรจริง แต่ใต้ทะเลไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ปะการังก็ตาย โทรมไปหมด แล้วผมก็พยายามหาข้อมูลเอง ก็เจอแต่ภาพถ่ายแนว Top Views ตามจุดชมวิว กับภาพผิวน้ำที่มันใสๆ ผมอยากเห็นภาพใต้ทะเลที่เป็นปะการังว่ามันตายขนาดไหน แต่ก็ไม่ค่อยมีครับ ภาพใต้น้ำที่เจอก็จะเป็นภาพถ่ายกับเต่าที่เป็นเต่ากับซากปะการัง และเด็ดหน่อยก็คือฉลามวาฬ
ผมบอกตัวเองว่า เอาน่า บักสน ขนาดหลังร้านดำน้ำที่ดำตามเสา เจอสัตว์เล็กสัตว์น้อยผมยังมีความสุข และสนุกกับมัน แล้วนี่เกาะทั้งเกาะ ทะเลทั้งแถบ มันจะไม่มีอะไรให้ค้นหาเลยเหรอ อีกอย่าง สิบปากกว่าหรือจะเท่าตาเห็น ไปซะให้รู้ จะได้หายข้องใจ
ผมชวนรุ่นพี่ที่ลันตามาด้วย นั่นก็คือพี่โอ๋ พี่ชายที่แสนดีที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งบัดดี้ลงน้ำ และเป็นตากล้องให้เวลาผมขอภาพตัวเองใต้น้ำ
การเดินทาง
- ผมเดินทางออกจากเกาะลันตาด้วยรถตู้ ที่รับส่งจากที่พัก มาส่งถึงโรงแรมในกระบี่
- ผมค้างที่กระบี่หนึ่งคืน จากนั้นก็เดินทางมายังเกาะเต่าด้วยบริการของลมพระยา ครับ ค่าตั๋วจากเกาะลันตามายังกระบี่ 160 บาท ค่าลมพระยามาเกาะเต่า 1,300 บาท
- ที่เกาะเต่า ผมใช้บริการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับครับ เพราะว่าการเดินทางที่นี่ต้องใช้แบบนี้เลย ไม่งั้นไปหาดแต่ละหาดไม่ไหว ค่าเช่ารถวันละ 170 บาท ผมเช่ากับร้าน “เกาะเต่าบุกกิ้งเซ็นเตอร์” อยู่แถวท่าเรือแม่หาดเลยครับ เช่าหลายวันพี่เค้าลดให้ครับ
- เกาะเต่า หลายหาดที่ทางเข้าหาดหายากมากครับ ตอนแรกคืองงมาก ไม่เจอทางสาธารณะ สรุปคือที่นี่ให้เราเดินทะลุรีสอร์ตไปเลยครับ ที่นี่เค้าเป็นแบบนี้กัน 55 ไอ้เราก็เกรงใจรีสอร์ตกลัวไปวุ่นวายเค้าครับ บางจุดก็เสียตังค์ บางจุดก็ไม่เสียครับ เดี๋ยวหาดไหนเสียตังค์ผมจะบอกในบทความนะครับ
ที่พักที่เกาะเต่า
- ผมพัก 3 คืนแรกที่ Coral Grand Resort คืนละ 700 กว่าบาท เป็นรีสอร์ตติดหาดทรายรีเลยครับ และเดินทางไปยังอ่าวหินวงง่ายครับ
- วันที่เหลือผมพักที่ Sabye~Sabye เป็นบ้านทั้งหลังเลยครับ มี 2 ห้องนอน เป็นห้องแอร์ 1 ห้อง และพัดลม 1 ห้อง มีห้องทำงาน มีครัว มีห้องน้ำ น้ำอุ่น คืนละ 500 บาทครับ แล้วถ้าอยู่ยาวๆ เค้าลดให้อีกครับ สถานที่ดีติดถนนเลย
ได้ที่พักอะไรกันแล้ว ฟินพร้อม หน้ากากพร้อม มาครับ ไปสำรวจทะเลเกาะเต่ากับผมเลย
เกาะนางยวน – Japanese Garden (ไปกับทัวร์ One Day Trip)
จุดแรกที่ผมไปของการมาเที่ยวเกาะเต่าก็คือ เกาะนางยวนครับ ซึ่งผมวางแผนว่าในวันแรกของการเที่ยว ผมจะเที่ยวผ่านการใช้บริการ One Day Trip ของทัวร์ที่นี่ เพื่อจะได้รู้จุดต่างๆก่อน แล้ววันหลังค่อยไปเองครับ ค่าทัวร์ช่วงผมมาก็ถูกมากครับ คนละ 500 บาท มีรถรับส่ง (ซึ่งรถรับส่งผมขอติงนิดนึงนะครับว่า อันตรายมาก เป็นรถกระบะที่ไม่มีที่กั้นหลัง ไม่มีที่จับ ต้องจับเบาะนั่งอย่างเดียว มันน่ากลัวมากเวลารถขึ้นลงถนน ซึ่งไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคันนะครับ เป็นคันที่มารับผมตอนเช้า ส่วนคันตอนเย็นก็มีที่กั้น ที่จับครับ นั่งคันตอนเช้าไปก็กลัวตายมากครับ)
เกาะนางยวนเราจะเสียค่าเข้า คนไทย 50 บาทครับ เกาะนี้มีหาดทรายที่กั้นทะเลเป็นทะเลแหวก และมีจุดชมวิว ที่เราสามารถเดินขึ้นไปถ่ายภาพได้ แต่ทริปนี้ผมไม่ได้เน้นบกครับ ผมเน้นน้ำ เลยไม่เดินขึ้นไป ออมแรงไว้สำหรับลงน้ำครับผม โดยที่เกาะนี้ทัวร์จะให้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงครับ ก็นั่งเมาท์กันไปฆ่าเวลาไปครับ จนถึงจุดที่เป็นจุดแรกของการลงน้ำนั่นก็คือ Japense Garden
สารภาพว่าไม่เคยรู้จักชื่อสถานที่นี้มาก่อนครับ พอไปเห็น ว้าว แนวปะการังสวยครับ มีการเรียงตัวเหมือนจัดสวนจริงๆ ชอบมากๆ ปะการังหลายชนิดก็ไม่ค่อยเห็นที่ฝั่งทะเลอันดามันที่ผมไปเที่ยว ก็มาเจอเยอะมากที่เกาะเต่านี่แหละครับ
ที่ผมชอบมากที่สุดของอ่าวนี้ก็คือความหลากหลายของปะการังแข็งครับ ยิ่งถ้าเรารู้ว่าปะการังแข็งนั้นสำคัญกับระบบนิเวศของโลกมากแค่ไหนเราก็จะยิ่งอินไปอีกครับ เพราะปะการังเหล่านี้นี่แหละที่สร้างแนวปะการัง เป็นที่อยู่ของสัตว์ทะเล 25% เลยครับ และทั่วโลกรวมกันแล้ว พื้นที่ใหญ่กว่าประเทศลาวนิดเดียว
หากเราต้องการมาดำน้ำที่ตรงนี้ ถ้าไม่มากับทัวร์ ก็สามารถเหมาเรือหางยาวมาได้ครับ ราคาก็แล้วแต่ว่าจะตกลงกันที่เท่าไหร่ครับผม
Landscape ใต้น้ำที่เกาะนี้คือดีงามมาก น้ำก็ใสสุดๆ เรียกได้ว่าแค่จุดแรกก็เพลินไม่อยากขึ้นจากน้ำเลยครับ ตรงนี้มีคนมาดำสคูบาด้วยนะครับผม
คนรักโลกใต้ทะเลแบบผมมาเห็นขนาดนี้ก็ชอบแล้วครับ เพราะปะการังยังสมบูรณ์ และการเรียงตัวก็น่าสนใจ
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างของที่นี่คือ ปลาครับ ปลาที่นี่ไม่กลัวคนเลย เราสามารถค่อยๆว่ายเข้าไปใกล้ๆได้ ผมก็ถ่ายรูปเพลินเลยสิครับ เราใช้เวลากันตรงนี้ประมาณ 40 นาทีครับผม ก่อนที่จะย้ายจุดไปยังจุดอื่นๆ
อ่าวม่วง (แนะนำให้ไปทางเรือ)
อ่าวนี้เป็นอ่าวที่ถ้ามา แนะนำว่าให้มากับเรือครับ เพราะผมว่าปลอดภัยกว่ามาก ถ้าเราขับมอเตอร์ไซต์ไปตามถนนเส้นหลัก บอกเลยว่าอันตรายมาก เหมือนเราชีวิตไปแขวนบนความตายทุกขณะที่อยู่บนรถ ถนนคือทั้งชัน ทั้งหักโค้ง บางจุดเป็นดินทราย และน้ำก็เซาะกลางถนนอีก (ในวันที่ผมเขียนนี้ก็มีฝรั่งแหกโค้งเสียชีวิตไป) แนะนำจริงๆครับว่าถ้าอยากไปให้ไปกับเรือครับผม จะใช้ Boat Taxi ก็ได้
ที่อ่าวม่วง จะเด่นเรื่องปะการังเขากวางครับ ถ้าใครที่ได้แค่ใส่ชูชีพสนอกเกิล ก็อาจจะเห็นจากด้านบน ดูสภาพเหมือนปะการังมันตาย แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ตายนะครับ ผมฟรีไดฟ์ลงไปดู ปะการังก็สมบูรณ์มาก หนาแน่นมาก และปลาที่แทรกอยู่ตามปะการังคือเยอะมากด้วยครับ
ปะการังเขากวาง เป็นปะการังที่ผมเห็นได้มากที่สุดของเกาะเต่า มีหลากหลายชนิด เป็นปะการังที่บอบบางครับ ต้องระวังไม่ให้ฟินเราไปโดนไม่งั้นเดี๋ยวหักได้ แถมเป็นปะการังที่เครียดง่าย ในภาวะโลกร้อนแบบนี้ ปะการังเขากวางเป็นหนึ่งในปะการังที่ฟอกขาวเยอะที่สุดครับ
ด้วยความที่ส่วนตัวผมก็ชอบปะการังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การได้เห็นดงปะการังสุดลูกหูลูกตาแบบนี้ผมดีใจมากครับ มันดีต่อใจเหลือเกิน ถ้าเราสังเกตดีๆเราจะเห็นปลาเล็กปลาน้อยซ่อนตัวอยู่ในปะการังเหล่านี้ด้วย ปะการังเขากวางนี่บางชนิดก็โตเร็ว บางชนิดก็โตช้าครับ
เจอปลาโนรี Longfin bannerfish กับปลาผีเสื้อชุมพร น้องๆไม่ตื่นคนเลยสักนิด ว่ายช้าๆอวดร่างไปเรื่อยๆ
อ่าวหินวง (ทางเข้าเสียค่าจอดรถ 20 บาท)
อ่าวนี้สามารถไปได้โดยการขับมอเตอร์ไซต์ไปครับ แน่นอนว่าทุกหาดของที่นี่ถนนชันมาก ต้องระวังกันด้วยนะครับ และจะเสียค่าจอดรถ 20 บาท หรือไม่งั้นก็ซื้อน้ำดื่มเค้า ก็จะสามารถจอดรถได้ฟรีครับ ตรงอ่าวนี้พื้นที่ใหญ่มาก และโลกใต้ทะเลก็สวยมากครับ
ที่นี่ปะการังสวยมาก มีตั้งแต่น้ำตื้นยันน้ำลึกเลยครับ รวมไปถึง “ฝูงปลาข้างเหลือง” นับหมื่นๆตัว แต่วันที่ผมไปน้องอยู่ลึกมาก ผมฟรีไดฟ์ลงไปกว่าจะถึงคือ 11 เมตร แล้วมันลึกถ่ายรูปมาไม่ค่อยสวย เลยไม่ได้เก็บบรรยากาศมาสักเท่าไหร่ เน้นเก็บภาพปะการังที่แสงส่องถึงดีกว่าครับ
เป็นอ่าวที่เต็มไปด้วยสีสันของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ทั้งปลานกแก้ว ปลาสลิด ปลากระเบน ปลาผีเสื้อ แล้วแต่ว่าจังหวะเราจะเจออะไรบ้าง
ด้วยความที่เกาะเต่ามันแทบจะไม่มีหาดทรายครับ มันเป็นเหมือนหินกองๆกันลงไปในทะเล และนั่นแหละครับหินเหล่านั้นคือแหล่งยึดเกาะชั้นดีของปะการัง ทำให้แค่การดำน้ำเลาะหินก็จะเห็นปะการังสวยๆที่ขึ้นตามหินต่างๆเพียบเลย
ความหลากหลายของปะการังก็สูงมาก ดูแล้วเหมือนการมาชมสวนใต้น้ำ
ปะการังสมองก้อนใหญ่ กระทบกับแสงแดด ดูมีเสน่ห์มากครับ
ผมลัดเลาะไปเรื่อยๆ ก็เจอเข้ากับดงเขากวางอีกแล้วครับ ครั้งนี้เห็นบรรดาปลาเป็นฝูงด้วย
ปะการังเขากวางยังมีสภาพสมบูรณ์ค่อนข้างสูงมากๆ มีคนที่เกาะเต่าเล่าให้ฟังว่า ปะการังฟื้นตัวในช่วงที่โควิดระบาด
ถ่ายภาพเก็บความทรงจำไว้สักหน่อย ว่ากันว่า ภาพถ่ายใต้ทะเลนั้นมีคุณค่ามากกว่าแค่บันทึกความทรงจำ เพราะมันคือการจารึกประวัติศาสตร์ใต้ทะเลไว้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตทะเลแห่งนี้จะดีขึ้นหรือแย่ลง ถ้าหากดีขึ้นแสดงว่าเราโชคดีที่จะได้เห็นความงามในวันข้างหน้า ถ้าหากมันแย่ลง ก็แสดงว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีโอกาสได้เห็นความงามก่อนที่มันจะสูญสิ้น
และตรงหินวง ผมเห็นมีดอกไม้ทะเลด้วยครับ แต่เอ๊ะ มันไม่เหมือนดอกไม้ทะเลฝั่งอันดามันที่ผมเห็น คือที่นี่ปลายจะออกม่วงๆ ชมพูๆ ครับ น่ารักไปเลย
และไม่ได้มีแค่อันสองอันนะครับ มีเป็นดงเลยจ้า ในนั้นก็มีปลาการ์ตูนอินเดียนแดงอาศัยอยู่ บางจุดนี่มีหลายตัวครับ
เก็บภาพปลาการ์ตูนที่เกาะเต่ามาฝากครับ น้องน่ารักมาก อยู่ในดงดอกไม้ทะเลสีพาลเทลด้วย
ในช่วงที่ผมมานั้น เกาะเต่าน้ำใสที่สุด การถ่ายภาพก็เลยง่ายมากครับ ไม่ค่อยมีฝุ่นใต้น้ำมากเท่าใดนัก แต่การถ่ายภาพปลาการ์ตูนนี่ก็ท้าทายเอาเรื่อง เพราะน้องไม่ค่อยอยู่นิ่ง เราต้องคาดเดาทิศทางของน้องว่าไปทางไหน จะโผล่ตัวออกจากดอกไม้ทะเลเมื่อใด
และเซอร์ไพรส์สุด เจอนูดี้กระต่ายครับ โอ้ย ก็ว่าอยู่ มาเกาะเต่าทำไมไม่เห็นนูดี้บ้างเลย บทจะเจอก็เจอกระต่ายซะงั้น น้องน่ารักมาก อ้วนพีเหลือเกิน
ตัวกะปุ๊กลุกมาก สงสัยอาหารการกินอุดมสมบูรณ์นะครับเนี่ย
เจอน้องกระต่ายอยู่ใกล้ๆกันสองตัวครับ ที่อ่าวหินวงทางซ้าย ลัดเลาะไปเรื่อยๆ
ทีนี้ครับ มาเจอดงหมู่บ้านหนอนฉัตร โอ้โห มันจะเยอะเกินไปไหมครับเนี่ย เป็นสีสันแห่งท้องทะเลสมคำร่ำลือมากๆ มันสวยมาก สวยจนอดใจไม่ไหว
ผมค่อยๆว่ายเข้าไปหาน้องๆอย่างช้าๆ เพื่อเก็บภาพความฟูฟ่องของตัวหนอนฉัตร นี่เป็นหนอนชนิดเดียวที่ผมรู้สึกว่ามันสวย
แต่หลังจากนั้นก็ค้นพบว่า “ทุกหาดทุกอ่าว” ที่ผมไป ล้วนเห็นหมู่บ้านหนอนฉัตรทั้งนั้นเลยครับ เกาะเต่าคือสวรรค์ของคนชอบสัตว์ทะเลชนิดนี้
และเช่นเคยครับ มีดงเขากวางให้ชมอีกเหมือนกัน ตรงนี้เขากวางอยู่ลึกหน่อยครับผม ต้องฟรีไดฟ์ได้ประมาณ 4 เมตรขึ้นไปถึงจะเห็นแบบชัดๆ แต่ถ้าชอบเขากวางแบบสุดๆ มาครับ ไปยังจุดต่อไป มันเป็นจุดที่เขากวางหนาแน่นที่สุด!
Freedom Beach (เสียค่าเข้า 50 บาท)
หาดฟรีดอม เป็นหาดที่ต้องเสียค่าเข้า คนไทยคนละ 50 บาทครับ โดยเราสามารถใช้บริการอาบน้ำได้ ที่นี่มีหาดทรายให้นั่งเล่นชิวๆด้วย และหน้าหาดก็มีปะการังขึ้นแล้วครับ และบอกเลยว่าปะการังที่นี่สวยมาก ดีมาก แต่ต้องว่ายออกไปไกลหน่อยครับ หันหน้าหาทะเล ว่ายไปทางซ้ายหาทุ่นจอดเรือครับ แถวนั้นแหละที่ปะการังขึ้นอย่างหนาแน่น
น้ำที่หาดฟรีดอมคือใสมากจริงๆครับ ดูสิครับ นี่คือถ่ายภาพจากผิวน้ำเลย มองเห็นชัดมากๆ ปะการังเขากวางหลากหลายแบบด้วย ดีงามมากจริงๆ
ปะการังเขากวางพุ่ม รวมไปถึงปลาที่คอยมากินปะการัง ทำความสะอาดท้องทะเล มาทีก็เป็นฝูงครับ เวลาชมน้องจะได้ยินเสียงน้องแทะปะการังดังก้อกแก้กๆ
เสน่ห์ของหาดนี้คือ การที่เราจะได้เห็นปะการังบางชนิดแทรกตัวอยู่ตามปะการังเขากวางครับ และน้ำก็ใส บางจุดก็น้ำตื้นมาก ทำให้เที่ยวง่าย
และปลาพวกนี้ที่ลอยตัวยนิ่งๆ รอให้เราไปเก็บภาพ ปลาแถบนี้ไม่คิดจะหนีคนเลยรึไงนะ หรือว่าชินนักท่องเที่ยวแล้ว
ถัดจากปะการังเขากวางก็จะเป็นปะการังผักกาด ปะการังจาน มันสวยมาก ชอบมากๆ
เจอปลานกแก้วสร้างทรายด้วยครับ ทรายละเอียดที่เราหยิบกันนั่งทับกันนั่นแหละ คืออึน้องทั้งนั้น ฮ่าๆ
Shark Bay ชมลุงเต่าป้าเต่าและฉลาม
มาเกาะเต่า ไม่เจอเต่าก็คงแบบเสียดายเนาะ อ่าวนี้เราจะมีโอกาสเจอเต่าสูงมาก ถ้าไปเองก็จำทริคไว้ครับ ว่ายไปหาที่มีคนมุงกันเยอะๆ แถวนั้นแหละเค้าน่าจะมุงดูเต่ากัน จุดนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าชมนะครับ
เต่าที่ตัวใหญ่มากครับ ใหญ่เจ้าพระคุณรุนช่องมาก สะใจมาก และนิ่งมาก มนุษย์อย่างถ่ายรูปเราเหรอ เอาสิ ถ่ายเลยลูก แล้วเต่าก็ว่ายไปซบอกตรงที่มีขวดเบียร์เยอะๆ แล้วแช่ร่างอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ จนนึกว่าเป็นหุ่น
ลุงเต่าจะนอนแล้วนะเด็กๆ อยากถ่ายภาพก็ถ่ายไป
เต่าที่ผมเจอวันนี้อยู่ลึกพอควรครับ คือ 8.2 เมตร ดังนั้น ถ้าคนที่สนอกเกิลได้อย่างเดียว อาจจะต้องรอจังหวะที่เต่าลอยมาหายใจเหนือน้ำครับ แต่ระวังหน่อยนะครับ เวลาเต่าลอยมาหายใจ เราไม่ควรไปออกันขวางทางเค้าครับ ต้องทิ้งพื้นที่ให้เค้าได้ขึ้นไปหายใจด้วย ส่วนคนที่ฟรีไดฟ์ได้ก็จะได้เปรียบ ไปชมเต่าแบบแทบจะหน้าชนหน้า
ประสบการณ์ชีวิตที่ตราตรีงมาก คือการได้อยู่ในบรรยากาศกับเต่าพร้อมกันถึง 3 ตัวครับ ฟินจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เต่านี่เป็นสัตว์ที่หายากนะครับ ใกล้สูญพันธุ์แล้ว แต่ประเทศไทยเรายังดีที่มีเต่าให้ได้เห็น ยิ่งเกาะเต่า การได้มาสัมผัสเต่าระยะใกล้ๆแบบนี้มันคือช่วงชีวิตที่แสนวิเศษที่สุด จะหาที่ไหนได้อีก
เด็ดกว่านั้น คือระหว่างที่ผมเจอเต่าตัวนึง และผมก็ว่ายไปกับเต่าเรื่อยๆ พลัน สายตาก็เห็นอะไรว่ายๆอยู่ข้างล่าง พอส่องดีๆ โอ้ว ฉลามครับพี่น้อง และทีเด็ดที่สุด ที่ต้องขอบคุณแต้มบุญชีวิตตัวเองคือ ฉลามกำลัง “ผสมพันธุ์” กันครับ พระเจ้า! นี่มันหาดูได้ยากมาก ยากกว่าการได้เจอฉลามวาฬอีก!!
โดยฉลามที่ผมเห็นนั้นมีทั้งหมด 8 ตัวครับ 6 ตัวกำลังว่ายวนเป็นวงกลมรอบๆ 2 ตัวที่กำลังผสมพันธุ์กันอยู่ เป็นภาพที่อเมซิ่งมาก ซึ่ง อจ. ธรณ์ก็ได้ขอนำภาพไปประกอบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทางทะเลด้วยครับ เนื่องจากเป็นจังหวะที่หาเจอได้ยากมาก ผมก็ดีใจที่สุดครับที่ได้เห็นพฤติกรรมนี้ของฉลาม
ดูฉลามเสร็จแล้ว ผมก็ไปดูเต่าต่อครับ ถือว่าเป็นทริปที่ดีมากจริงๆ ได้เห็นทั้งแนวปะการังสวยๆ ทั้งฉลาม ทั้งเต่า ฟินอะไรขนาดนี้
อ่าวลึก (เสียค่าเข้า 50 บาท)
จุดนี้บอกเลยครับว่า ปะการังสวยบ้าบอคอแตกมาก ส่วนตัวยกให้คือที่สุดของการชมปะการังของเกาะเต่า น้ำก็มีทั้งจุดที่ตื้นที่ลึก คือจะสายสนอก ฟรีไดฟ์ สคูบา จุดนี้มีครบทุกกิจกรรม การเดินทางมาที่อ่าวนี้มาตามถนนคอนกรีตเลยครับ แล้วจะมีจุดให้จอดรถที่ต้องเสียค่าเข้า 50 บาทต่อคนครับผม เป็นคุณยายนั่งคอยเก็บค่าบริการ เข้าไปแล้วจะเจอชายหาด มีเก้าอี้ชายหาดให้นั่งครับ
ปะการังที่นี่สมบูรณ์ที่สุดครับ ความหลากหลายไม่ต้องพูดถึง เพราะมันสุดมากจริงๆ
ดูสิครับ การเรียงตัว คือสวยมากจริงๆอะ รักมากที่สุดอ่าวนี้
น้ำทะเลก็ใสจนไม่รู้จะใสยังไงแล้ว ข้างล่างลึกห้าหกเมตรก็เห็นพื้นสบายๆเลย
ปลาก็เยอะมากด้วยครับ มาเกาะเต่าเห็นฝูงปลาพวกนี้จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว
ปลาฉลามหลายตัวเวียนว่ายแถวหน้าหาดเลยครับ ไม่ต้องไล่ตามน้องนะครับ แค่อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวน้องก็ว่ายมาใกล้ๆเอง
วิวใต้ทะเลเป็นอะไรที่สุดแล้วสุดอีก เกาะเต่าสมควรแล้วที่จะโด่งดังขนาดนี้ เพราะใต้ทะเลมันสวยงามเหลือเกิน
คนชอบถ่ายรูปจะต้องชอบเกาะนี้ครับ เพราะมีของให้ส่องเยอะ แสงส่องถึง มีหลายระดับความลึกให้เลือกด้วย ฝึกฝีมือกันไปเลยครับ
มีปลาการ์ตูนอินเดียแดงด้วยครับ แต่ปลาการ์ตูนที่นี่อายคนครับ หลบเข้าดงดอกไม้ทะเลตลอด กว่าจะได้ภาพสักช็อตคือลมแทบหมด
ปลากระเบนก็มี บ้าไปแล้ว อะไรจะขนาดนี้ เกาะเต่า
หากใครมีเวลามาเที่ยวเกาะเต่าน้อย แนะนำว่าอ่าวลึกควรอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวครับ ไปทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวา ไปเลย สวยทั้งนั้น
อ่าวลึกทางขวามือจะมีจุดที่เป็นปะการังเทียมด้วยนะครับ มีปะการังเขากวางขึ้นหนาแน่นมาก สวยมาก แต่ก็ต้องฟรีไดฟ์ไปดูเช่นกันครับ ความลึกประมาณ 7-8 เมตร
ปะการังเขากวางสมบูรณ์มากๆเลยครับ สวยมากด้วย เห็นแล้วชื่นใจ มีความสุข อยากให้ทุกคนได้มาเห็นด้วยกัน
แนะนำที่สุดเลยครับ หากมีเวลาน้อย ห้ามพลาดที่นี่ เสียค่าเข้าแต่ก็คุ้มที่สุด
และเช่นเคยครับ ทุกหาด เราจะเห็นเลยว่ามีดงเขากวางขึ้นตลอดเลย บางหาดก็ขึ้นลึกหน่อยบางหาดก็ขึ้นตื้นๆครับ อย่างอ่าวลึก จุดที่ตื้นหน่อยก็ประมาณ 3 เมตรครับผม
อ่าวโตนด
มาถึงอ่าวสุดท้ายที่ผมไปเที่ยวมาครับ นั่นก็คือ อ่าวโตนด อ่าวนี้สามารถไปได้ตามถนนคอนกรีต ถนนพาไปจนแทบจะถึงหาดเลยครับ ไม่เสียค่าเข้าชม อ่าวนี้เป็นอีกอ่าวที่ปะการังใต้ทะเลสวยมากครับ และเป็นอ่าวที่มีหินสูงมาก ฝรั่งชอบปีนขึ้นไปกระโดดน้ำที่นั่นครับ
ปะการังที่นี่ก็เบ่งบาน เติบโตหนาแน่นเช่นกันครับ สวยมาก สวยจริงๆ ชอบอีกแล้วครับ
มีทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน อ่าวนี้ปะการังอ่อนขึ้นเยอะด้วยครับ
ปะการังเขากวางก็ฟอร์มตัวสวยสุดๆ
บางช่วงมี Plankton Bloom ด้วยครับ น้ำก็จะออกเหลืองๆหน่อย ถ่ายภาพมาเหมือนแสงออโรร่า แต่โดยส่วนตัวไม่ชอบเท่าไหร่ครับ มันทำให้น้ำตรงนั้นดูขุ่นๆ เหมือนฝุ่นคละคลุ้ง แต่ก็มีแค่บางพื้นที่นะครับ
ปะการังเขากวางแน่นมาก ซ้อนกันเป็นเลเยอร์ๆ ความลึกประมาณ 4 เมตร มองเห็นได้สบายๆ
อ่าวนี้แค่สนอกเกิลก็ฟินแล้วครับ บางจุดน้ำก็ตื้นมาก ไม่ถึงเมตร! ต้องใช้มือวาดๆเอาระหว่างอยู่เหนือน้ำ
ปะการังเขากวางสีเขียว แจ่มเลยครับ
ฝูงปลาที่นี่ก็เยอะมากๆเช่นกันครับผม คือมาเกาะเต่านี้เห็นปะการัง เห็นปลา จนเอาจนอิ่ม จนชิน จนเริ่มไม่ตื่นเต้นแล้ว
โดยส่วนตัวไม่เคยเจอปะการังแบบนี้มาก่อนครับ ดูเผินๆเหมือนเป็นแค่ก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ แต่จริงๆแล้วคือปะการังอ่อน โบกโพลิปพลิ้วมาก หนาแน่นมาก เยอะแบบทุกตารางนิ้วมีแต่ปะการังแบบนี้
อ่าวโตนด เมื่อมองไปในทะเล จะเห็นกองหินสามก้อนอยู่บริเวณด้านซ้ายครับ ว่ายไปเลย ก่อนจะถึงหิน จะเป็นดงปะการังเขากวางครับ มีทั้งแบบพุ่มๆ และแบบแหลมๆ สวยสุด ปลาในนั้นก็เยอะมาก ความลึก 5-8 เมตรครับ
เป็นการเที่ยวทะเลที่แทบจะสำลักความสุขของการได้เสพความงามของปะการังและสัตว์โลกใต้ทะเล ผมแนะนำมากเลยว่าหากมีเวลามาเถอะครับ
บทส่งท้าย
ขอบคุณตัวเองมากๆที่พาชีวิตมาเที่ยวที่เกาะเต่า แล้วก็ได้ค้นพบว่าจริงๆแล้ว เกาะแห่งนี้คือสวรรค์อีกที่สำหรับคนชอบทะเล ผมได้เจอคนท้องถิ่นบอกว่า จริงๆแล้วทะเลที่นี้เสื่อมลงไปเยอะ 20 ปีก่อนเกาะเต่าสวยกว่านี้ ปะการังเยอะกว่านี้ แต่ทำไงได้ครับ 20 ปีก่อน ผมยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย จังหวะชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน ส่วนตัวแล้วแค่เท่าที่เห็น ณ วันนี้ ก็คือมองว่าสวยมากๆแล้วครับ สวยจนต้องใช้คำว่าเที่ยวเกาะเต่า “ครั้งที่หนึ่ง” เพราะต้องมีกลับมาซ้ำอย่างแน่นอน
เกาะเต่านั้นมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องซื้อทัวร์ออกไปไหนไกลๆเลย ยกเว้นเวลาไปเที่ยวอ่าวนางยวน หรือยากจอยทริปนั่งเรือชิวๆไปกับเค้า หากคนที่ขับมอเตอร์ไซต์ได้ หรือเน้นเที่ยวทะเลหน้าหาด ก็หาที่พักใกล้หาด แล้วเดินลงน้ำ นั่นแหละครับ ปะการังมากมายอยู่ตรงนั้นเลย
อย่างไรก็แล้วแต่ ทุกการเดินทาง ความปลอดภัยต้องมาก่อนอยู่เสมอ ถนนของเกาะเต่าลาดชันมาก บางที่ทั้งชันทั้งหักโค้งแบบไม่ปราณีกันเลย บางจุดเช่นอ่าวม่วง ทางลงเป็นดินทราย น้ำเซาะกลางถนน เสี่ยงตายมากๆ และหลายพื้นที่ ถนน ไม่มีไฟข้างทางด้วยครับ จึงจำเป็นมากๆที่เราจะต้องประเมินความสามารถในการขับขี่ของเรา และวางแผนให้ดีๆ
แม้กระทั่งการลงน้ำ เป็นไปได้ก็พยายามอย่าไปลงเล่นน้ำคนเดียวครับ คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล
หวังว่าบทความชิ้นนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นโลกใต้น้ำของเกาะเต่ามากยิ่งขึ้น เป็นเกาะที่ดีมากครับ วันหยุดพักผ่อนครั้งหน้า มองหาที่เที่ยวทะเลที่แค่ลงน้ำก็ฟินแล้ว แถมมีครบทุกกิจกรรมไม่ว่าจะสนอกเกิล ฟรีไดฟ์ สคูบา
“เกาะเต่าคือที่ที่ผมอยากให้มาลองกันครับ”
ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ แล้วเจอกันใหม่กับการเดินทางครั้งถัดไปครับ