สวัสดีครับผม กลับมาพบกันอีกแล้วกับบันทึกการเดินทางตอนใหม่ของผมนะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องการเดินทางไปแบกเป้ที่มณฑลยูนนานครับ ซึ่งเป็นทริปที่เพิ่งจะสิ้นสุดไปเมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เอง แต่ผมก็เพิ่งจะมีเวลามาเรียบเรียง ฮ่าๆ โดยทริปนี้เป็นการเดินทางไปเมืองจีนที่อยู่เที่ยวนานที่สุดของผม คือ 20 วันครับ แบ่งออกเป็นเที่ยวมณฑลยูนนาน และมณฑลซานซี
การเดินทางไปยูนนานครั้งนี้เป็นการไปครั้งที่สองของผมแล้วครับ แม้ว่าผมจะเคยไปมาแล้วแต่ครั้งนั้นผมติดใจที่แชงกรีล่า วัฒนธรรมชาวทิเบต ที่ผมไปเห็นแล้วได้แต่งงงวยว่ามันคืออะไร รูปภาพในฝาผนังนี่หมายความว่าอย่างไร จึงเป็นเหตุให้ผมตั้งใจไว้ว่า หากมีโอกาสผมจะกลับไปอีกรอบให้ได้
ประกอบกับปีที่แล้วสายการบินหางแดงออกตั๋วโปรศูนย์บาทบินไปกลับคุณหมิงราคา 1,250 บาทเท่านั้น ถูกอย่างกะนั่งฟรี ผมก็เลยจัดมาใบนึงครับ แล้วก็มีรุ่นพี่อีกสามท่านเดินทางไปด้วย แต่การเดินทางไปครั้งนี้พี่ทั้งสามจะเดินทางกลับก่อนผมครับ ทำให้มีการวางแผนการเดินทางใหม่
สำหรับใครที่ยาวไปไม่อ่าน ดูสรุปจากตรงนี้ได้เลย ผมเอาแพลนการเดินทางมาให้ดูครับ
วันที่ 1 นั่งเครื่องบินออกจาก กรุงเทพ บินตรงสู่คุณหมิง
เมื่อถึงคุณหมิงแล้ว รอต่อเครื่องบินภายในประเทศบินตรงสู่ลี่เจียงครับ (ผมจองผ่าน ctrip ได้ราคาคนละสองพันบาท ปัดเป็นเลขกลมๆ) เมื่อเดินทางขึ้นลี่เจียงแล้ว ผมติดต่อให้เพื่อนที่เมืองจีนส่งแทกซี่มารับครับ (อานิสงค์ของการเดินทางแบกเป้บ่อย ทำให้มีเพื่อนในเมืองจีนเยอะมากครับ เลยหลังๆมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆได้สบายหน่อย) คนที่มารับพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ชื่อว่าพี่ Peter Deng ครับ หากจะติดต่อพี่เขาโดยตรงก็ได้เลยนะครับ Email: [email protected] เบอร์โทรพี่เค้า 13988871059 (หากจะแชทกับพี่เค้าก่อนผ่าน wechat ก็ใช้เบอร์โทรนี้เช่นเดียวกันครับ)
ที่ลี่เจียงนั้นผมพักที่โรงแรมของเพื่อนผมเองครับ อยู่ในเขตเมืองเก่าลี่เจียง ชื่อว่าโรงแรม Warm Flower Guest House.
วันที่ 2 เดินทางเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow moutain) และสระน้ำหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue moon valley)
เนื่องจากผมไปตรงกับวันชาติจีน วันนี้จึงอยากไปเที่ยวจุดเที่ยวเด่นๆก่อน เพราะกลัวคลื่นมหาประชาชนชาวจีน ผมไปโดยซื้อ One Day Trip ครับ ในเขตเมืองเก่าสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายทัวร์ได้เลย จริงๆจะไปเองก็ได้ แต่ผมมาคิดดูแล้วซื้อ One Day Trip แบบนั่งรถตู้ไป ก็มีแค่พวกเรา กลับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นอีกรวมแล้วแค่ 8 คน ผมว่าโอเคเลย เขามารับมาส่ง สะดวกดีครับ ไพรเวททัวร์อยู่แล้ว ราคาตอนผมซื้อนั้นอยู่ที่ 530 หยวนต่อคน รวมทุกอย่างแล้วตั้งแต่ค่ารถมารับส่ง ค่าตั๋วเข้าอุทยาน ค่าตั๋วขึ้นกระเช้า มีอาหารกลางวัน (ที่ไม่อร่อย ฮ่าๆ) ค่ากระป๋องออกซิเจน ค่าเช่าชุดกันหนาว ราคามีถูกมีแพงกว่านี้ แล้วแต่เราจะเลือกเลยคับมีร้านขายทัวร์ในเขตเมืองเก่าเยอะมากๆ
วันที่ 3 ท่องเที่ยวในเขตเมืองเก่าลี่เจียง
วันนี้เป็นวันแรกของวันชาติจีนครับ ตั๋วเข้าชมลด 20% ถือว่าโชคดีมาก แถมไม่เจอคนจีนเยอะด้วย แปลกใจสุดๆ จุดหลักๆที่เที่ยวก็คือเดินชมแลนด์มาร์คในเมืองนี้ได้แก่ กังหันน้ำขนาดใหญ่ สระน้ำมังกรดำ (Black Gragon Pool) อันนี้เสียค่าเข้าชมเต็มจำนวน 80 หยวน ไปขึ้นภูเขา Lion Hill เพื่อดูวิวหลังคาหมู่บ้านเมืองเก่าลี่เจียง ไปดู Mu Palace ซึ่งเมืองนี้เสียค่าชมแยกรายสถานที่ครับ
วันที่ 4 เช่ารถไปแชงกรีล่า แวะเที่ยว หุบเขาเสือกระโจน
ด้วยความที่เราไปกันทั้งหมดสี่คน ผมเลยแนะนำเพื่อนร่วมทริปว่า เราเช่ารถไปแชงกรีล่ากันเถอะครับ หารกันแล้วมันก็ไม่ได้แพงมากนะ แถมแวะพักรายทางได้ด้วย ทุกคนก็เห็นดีงาม อะไรที่สนว่าดี ทุกคนก็ว่าดี ทริปนี้ผมเลยเป็นหัวหน้าทัวร์ไปโดยปริยาย เพราะเป็นคนเดียวในทริปที่มั่วภาษาจีนได้ ฮ่าๆ ผมให้เพื่อนหารถให้ ราคาอยู่ที่ 900 หยวนสำหรับการนั่ง One Way ไปยังเมืองแชงกรีล่า แต่โชคดี เพื่อนหาให้ได้ในราคา 800 หยวน ก็เป็นรถของพี่ปีเตอร์เติ่ง ที่ไปรับผมที่สนามบินนั่นเอง วันนี้เที่ยวตรงหุบเขาเสือกระโจนด้วย (Tiger Leaping Gorge) ค่าเข้าชม 65 หยวน ครับ แต่ผมไปช่วงวันชาติ เขาลดอีก 20% เย่!
เมื่อถึงแชงกรีล่า ผมพักที่เขตเมืองเก่าจงเตี้ยนครับ เป็นโรงแรมที่สถานที่ตั้งดีมาก อยู่หลังวัดต้าฝอซื่อเลย ชื่อโรงแรมคือ Shangri-La E-Outfitting Star. ครับ ผมแทรกลิงค์ไว้ให้แล้ว คลิกไปดูได้
วันที่ 5 นั่งรถบัสไปเที่ยววัดซงซานหลินซื่อ (Zongzanlin Monastry)
ที่หน้าทางเข้าวัดต้าฝอซื่อจะเป็นจุดขึ้นรถบัสครับ นั่งหมายเลข 3 จะพาไปยังวัดซงซานหลินซื่อเลย ไปง่ายมากๆ ค่ารถแค่ 2 หยวนเท่านั้นเอง นั่งสุดสายเลยครับ ค่าเข้าวัด 115 หยวนครับ พอเที่ยวเสร็จก็นั่งรถเมล์สายเดิมกลับมายังที่พัก ตอนเย็นๆก็เดินเที่ยวเขตเมืองเก่าจงเตี้ยนครับ
วันที่ 6 เที่ยวเขตเมืองเก่าจงเตี้ยน
วันนี้เราจะเที่ยวกันแบบพักผ่อนตามอัธยาศัยในเขตเมืองเก่าครับ มีสถานที่ที่อยากแนะนำให้ไปดูก็คือ Thanka’s Institute ครับ เป็นสถาบันเกี่ยวกับทังก้า เล่าเรื่องราวการวาดทังก้า ว่าเป็นมาอย่างไร ใช้สีอะไร บลาๆ อยู่ในเขตเมืองเก่านั้นเลยครับ ลองเดินหาดูได้ พวกของขายในเมืองนี้ราคาก็รับได้ครับ ไม่ถือว่าแพงมากจนเกินไป อย่างพวกหินทิเบต ก็มีตั้งแต่ 10 หยวนขึ้นไป (แต่ของแท้ไม่แท้ผมไม่ทราบ แหะๆ)
ตอนเย็นไปจองตั๋วรถบัสเพื่อจะกลับคุณหมิงครับ แนะนำให้จองไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทางเผื่อรถเต็มครับ
วันที่ 7 นั่งรถบัสยิงยาวจากแชงกรีล่ามาคุณหมิง
แชงกรีล่ามาคุณหมิง เส้นทางไกลมากครับ ให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เตรียมอาหาร น้ำดื่ม ไปด้วย เพราะนั่งนานมาก ตอนผมไปคือเกือบ 12 ชั่วโมง เนื่องจากพอจะเข้าตัวเมืองคุณหมิง รถเยอะหน่อย นั่งกันจนแบบเพลียร่างมากๆ พอมาถึงที่สถานีรถบัสในคุณหมิงก็จะมีคนขับแทกซี่(เถื่อน) มาเสนอบริการพาไปส่งโรงแรม อันนี้แล้วแต่เราครับว่า จะพอใจที่ราคาไหน ตอนผมไปได้มาราคา 50 หยวน ด้วยความที่ดึกมากแล้ว หารกันสี่คนก็ไม่ถือว่าแพงมาก ก็เลยจัดไปครับ จริงๆถ้าเรียกแทกซี่แบบปกติกดมิเตอร์จะถูกกว่า แต่ตอนนั้นแค่คุยกันง่ายๆ คนขับรถยังไม่เข้าใจเลยครับ ประเทศจีนหาคนพูดอังกฤษได้ค่อนข้างยาก
วันที่ 8 เที่ยวตัวเมืองคุณหมิง (หรือจะไปป่าหินก็ได้นะครับ)
ตอนแรกเราวางแผนว่าจะไปป่าหินกัน แต่สามคนในทริปเคยไปมาแล้ว พี่อีกคนก็เลยบอกว่าไม่ต้องไปก็ได้ ขี้เกียจนั่งรถแล้ว ฮ่าๆ เราก็เลยเที่ยวเมืองคุณหมิง เน้นช้อปเน้นชิม คนคุณหมิงสูบบุหรี่จัดมาก เป็นเมืองที่อากาศเหม็นควันบุหรี่มากครับ แต่ถ้าใครยังไม่เคยไปคุณหมิงก็แนะนำให้นั่งรถไปป่าหินได้ครับ ลองสอบถามการเดินทางจากพนักงานที่โรงแรมได้ครับ เซฟรูปป่าหินไปให้เขาดู เขาก็แนะนำให้ได้ ไปไม่ยากคับ
สำหรับที่คุณหมิง ผมพักที่โรงแรม Spring City Star Hotel Natie Branch ครับ เป็นโรงแรมที่ผมว่า OK นะ แต่เน็ตก็ไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ … ถ้าเล่นเน็ตจีนก็โอเค แต่ผมจะใช้ VPN เข้าเฟสอะไรแบบนี้ มันก็หลุดบ่อยเหมือนกัน
วันที่ 9 เดินทางไปยังเมืองต้าลี่
คนอื่นเขาเริ่มต้นจากคุณหมิงไปต้าลี่ แล้วต่อด้วยลี่เจียง จบที่แชงกรีล่า แต่ผมกลับย้อนขึ้นไปต้าลี่ ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนแรกผมตัดต้าลี่ออกจากแพลนครับ ว่าจะไปกุ้ยโจว แต่ด้วยความที่เวลาที่มี ประกอบกับไปช่วงวันหยุดยาวจีน ก็เลยตัดออกไป อีกอย่างคือพี่อีกสองคนจะบินกลับไทยก่อน ก็เลยเปลี่ยนแพลนนิดหน่อย วันนี้ผมเลยนั่งรถไปต้าลี่แทนครับ จากคุณหมิงไปต้าลี่ใช้เวลา 6 ชั่วโมง นั่งกันจนหลับแล้วหลับอีก ค่ารถ 110 หยวน
เมื่อถึงต้าลี่ก็นั่งแทกซี่ไปยังโรงแรมอีกครับ อยู่ในเขตย่านเมืองเก่าต้าลี่ ชื่อว่าโรงแรม Monster B&B ครับ ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นน่าจะนั่งแทกซี่ 60 หยวนะครับ คือมันก็ไกลมากจริงๆแหละใช้เวลาจากสถานีมายังโรงแรมเกือบ 30 นาทีได้มั้ง โรงแรมนี้ดีมากๆ แนะนำเลยครับ เมืองต้าลี่สงบสุดๆ
วันที่ 10 เช่ารถจักรยานยนต์เลาะเมืองต้าลี่
ผมไม่มีแพลนในเมืองต้าลี่มากนัก เพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะมา แต่ปรากฎว่าเป็นเมืองเก่าที่สวยและสงบมาก ดูสงบกว่าลี่เจียงเยอะเลย ผมกับพี่จึงเช่ารถมอไซต์ไปเที่ยวครับราคา 60 หยวนต่อวัน แต่ไปทำรถเค้าพังครับ จ่ายเพิ่มไป 400 หยวน ห้าๆๆๆ คือเนื่องจากว่าเราไม่เคยขับรถมอไซด์ไฟฟ้ามาก่อน แล้วระหว่างจะไปวัดแห่งหนึ่ง มันเป็นทางขึ้นเขา รถเจ๊งเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
เช่ามอไซด์ขับ สำหรับเที่ยวแพลนที่เป็นทางราบนะครับ ก็แวะพวกทะเลสาบ และเที่ยวบรรยากาศรอบๆ แค่นี้ก็ฟินแล้วคับ มีทุ่งดอกไม้สวยๆด้วย
วันที่ 11 เช่ารถจักรยานยนต์ไปเที่ยวเจดีย์สามยอด
สถานที่โด่งดังของต้าลี่ที่เป็นระดับ 5A ก็คือเจียด์สามยอดครับ (The Chongsheng Temple and the Three-Pagoda) ค่าเข้าชม 121 หยวน แต่ตอนไปก็มีคนแถวนั้นมาบอกว่า พวกเขาเป็นคนในพื้นที่สามารถซื้อตั๋วให้ได้ในราคาถูกกว่านะ คือ 100 หยวนเท่านั้น ผมก็เลยลองใช้บริการดู ก็ได้ราคา 100 หยวนจริงๆด้วย บริเวณรอบเจดีย์นี้ใหญ่มากๆ ไกด์แถวนั้นบอกว่าใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการเดินชม แต่ผมใช้เวลา 6 ชั่วโมง ฮ่าๆ สวยจริงๆครับ แนะนำๆ
วันที่ 12 นั่งรถกลับคุณหมิง
ผมซื้อตั๋วกลับมายังคุณหมิงผ่านโรงแรมที่พัก รอบนี้จุดขึ้นรถบัส อยู่ใกล้โรงแรมมากครับ ซื้อพร้อมกับให้เขาเอารถมารับไปส่งที่จุดขึ้นรถด้วย นั่งรถนานอีกแล้ว แล้วก็พักที่เดิมครับในเมืองคุณหมิง
วันที่ 13 บินไปเมืองซีอาน
พี่ผมบินกลับไทย ส่วนผมบินไปเมืองซีอานต่อครับ ถือว่าสิ้นสุดทริปยูนนาน แต่ทริปของผมยังไม่จบ เพราะอีก 7 วันก็ไปเตร็ดเตร่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งผมจะแยกเป็นอีกแพลนให้ดูครับ แต่จริงๆซีอานผมก็เคยไปมาแล้ว สามารถไปนั่งอ่านบล็อกย้อนหลังของผมได้ ว่ามีที่เที่ยวตรงไหนบ้าง ผมเขียนแยกวันไว้แล้วครับผมในเรื่องราวเก่าๆเนาะ
และนี่แหละครับ คือบันทึกเส้นทางการเดินทางของผม ใครจะไปเที่ยวจีนย่านยูนนานก็ลองนำเอาไปประยุกต์ดูได้นะครับ