มนต์เสน่ห์สุดตรึงตรา แตะขอบฟ้าที่ “บาหลี”

August 23, 2015
Scroll Down

ครั้งสุดท้ายที่ผมเดินทางไปยังบาหลี คือ สองปีที่แล้ว ไม่อยากเชื่อว่าระยะเวลาจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วจริงๆ การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ผมไม่ได้คาดหวังที่จะได้เที่ยวในที่ต่างๆ เพราะผมคิดว่า แหล่งท่องเที่ยวในบาหลีที่คนส่วนใหญ่ไปกันนั้น ผมก็ไปมาน่าจะครบแล้ว การเดินทางสู่บาหลีครั้งนี้จึงเป็นการเดินทางเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวอันเป็นที่รักซะมากกว่า

แต่ที่ไหนได้ครับ ทริปบาหลีครั้งนี้กลับเป็นทริปที่สุดแสนอัศจรรย์มากๆ เพราะผมได้ไปเที่ยวยังที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มันยิ่งทำให้ทริปนี้กลายเป็นส่วนเติมเต็มในชีวิตที่สุดแสนยอดเยี่ยมจริงๆ

ทริปนี้ ผมเดินทางโดย “ไม่ได้บอกกล่าว” ครอบครัวที่นั่นเลย นอกจากน้องชายที่บาหลีเพียงคนเดียว เพราะผมเกรงว่าผมอาจจะไม่ได้ไป แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็สามารถโบยบินไปยังเกาะสวรรค์แห่งนี้ได้ เมื่อไปถึงสนามบินน้องชายของผมก็มารับครับ โดยเราเช่ารถสำหรับขับ ในราคาวันละ 350,000 IDR

เมื่อไปถึงบ้านของครอบครัวที่บาหลี แม่ของเพื่อนก็เซอไพรส์มากๆ ที่อยู่ๆผมก็ปรากฎตัว รีบโทรศัพท์บอกญาติทั้งหลายว่า “พี่สนมาบาหลี” (ทุกคนเรียกผมว่าพี่สน …เรียกตามลูก) และในเย็นวันนั้น ญาติเกือบทุกคนก็ขับรถมายังบ้านของเพื่อนผมเลยครับ แล้วก็มาสวมกอด พร้อมพูดว่า ทำไมถึงหายไปถึงสองปี ไม่ยอมกลับมาบาหลีอีก ผมก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ บอกว่าขอโทษจริงๆครับ ที่หายไปไม่ได้กลับมาอีก ครั้งนี้ผมต้องขอรบกวนทุกท่านด้วยนะครับ

ทุกคนบอกว่า อย่าได้คิดว่าเป็นการรบกวนเลย เพราะพวกเราไม่เคยคิดว่าสนเป็นอื่นคนไกล เรารักสน เพราะสนเป็นคนในครอบครัวของเราแล้ว ทุกวันนี้สนจำไว้เลยนะว่า บ้านทุกหลังยินดีเปิดประตูต้อนรับสนเสมอ อย่าได้รู้สึกเหมือนคนอื่นคนไกลไป สนจะมาอยู่เป็นเดือนๆก็ได้ เรายิ่งดีใจถ้าสนได้มาอยู่นานๆ

ผมได้ยินแล้วก็ซึ้งใจจริงๆครับ

เพื่อนและน้องๆต่างก็ดีใจที่ผมไปครับ บอกว่าครั้งนี้เราจะพาพี่สนไปเที่ยวยังที่ใหม่ๆ พวกเราเชื่อว่าพี่สนจะต้องชอบแน่ๆ ผมก็ถามไปว่า มันยังมีที่แปลกๆอีกหรือ น้องชายผมอีกคนบอกว่า โหย บาหลีเกาะใหญ่ขนาดนี้ เที่ยวเป็นปีก็ไม่หมดหรอก เดี๋ยวผมพาพี่ขับรถเที่ยวเอง และนั่นแหล่ะครับ คือการเดินทางแบบไม่คาดคิด และกลายเป็นเรื่องราวแห่งความตื่นเต้นนั่นเอง

ด้วยความที่แม้ผมจะเคยไปบาหลี แต่ผมยังไม่เคยทำพิธีกรรมทางศาสนาร่วมกับครอบครัวที่นั่นเลยครับ ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่น้องชายจะพาผมไป Sebatu หรืออาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ครับ โดยครั้งนี้จะอาบกันที่น้ำตก เป็นสถานที่แทบจะไม่เห็นคนต่างชาติเลยครับ น้องบอกว่า ส่วนมากก็จะมีแต่คนบาหลีนี่แหละครับมาอาบ และก็ไม่ได้มากันทุกวัน เนื่องจากการอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์จะอาบก็ต่อเมื่อวันนั้นเป็นพิเศษสำหรับคนๆนั้นครับ

มีหลายวัดนะครับที่คนบาหลีจะไปอาบน้ำ ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวจะเข้าไปร่วมอาบก็ได้ แต่ว่าต้องเตรียมโสร่งไปให้พร้อมนะครับผม ภาพด้านบนคือวัด Gunung Kawi Sebatu Temple ครับ สวยมากๆ แนะนำเลย เป็นวัดที่อยู่ห่างจากอูบุดประมาณ 13 กิโลเมตร ถ้าสนใจจะไปให้ลองเซฟภาพไว้แล้วบอกไกด์ท้องที่ก็ได้นะครับ บางทีชื่อวัดในบาหลีมันก็คล้ายๆกัน เดี๋ยวจะไปโผล่ผิดวัด ฮ่าๆ

วัด Gunung Kawi Sebatu Temple เป็นหนึ่งในวัดที่สวยมากของบาหลี ภายในวัดเราจะเห็นสระน้ำที่น้ำใสเป็นสีคริสตัล ใต้น้ำก็มีปลากแหวกว่าย พร้อมกับน้ำพุผ่านหินแกะสลักทั้งหลาย ดูแล้วผ่อนคลาย และรู้สึกดีมากๆ

ตรงที่เป็นจุดอาบน้ำ “ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาดนะครับ” สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่คนละ 15,000 IDR ถ้าเด็กน้อยก็ครึ่งราคา และต้องนุ่งโสร่งเข้าไปนะครับ ไปเที่ยวบาหลี มีโสร่งติดตัวไว้ก็ดี แต่ถ้าไม่มี เค้าก็มีให้ยืมที่ตรงจุดขายตั๋วครับ

me

น่าเสียดายที่ภาพถ่ายตอนอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ผมถ่ายไว้ด้วยมือถือ และมือถือเครื่องนั้นหายไประหว่างเดินทาง เลยไม่มีภาพมาฝาก แต่ไม่เป็นไรครับ มาดูสถานที่ต่อมากันดีกว่า

หลังจากที่อาบน้ำกันเสร็จแล้ว น้องชายผมก็ถามว่า พี่อยากไปเล่นน้ำตกอีกที่ไหม? ผมก็ว่าไปไหนก็ไปเลยน้อง มีอะไรนำเสนอก็จัดมา น้องก็เลยพาไปยังน้ำตกอีกที่ คือที่ Tegenungan waterfall ครับ ผมก็เพิ่งเคยมาครั้งแรกอีกนั่นแหละครับ ที่นี่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ น้ำตกกระเซ็นแรงมาก พัดมาโดนตัวทีนี้หนาวสั่นเลย ฮ่าๆ

น้ำตกนี้เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่พักแถวอูบุดนะครับ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Tegenungan ห่างจากอูบุดประมาณ 5 กโลเมตรครับ เห็นน้องบอกว่ายามน้ำหลัก สามารถกระโดดจากผาลงมายังน้ำด้านล่างได้ แต่ช่วงนี้ไม่แนะนำครับ เดี๋ยวตกมาตาย ค่าเข้าชมคนละ 10,000 IDR ครับ

แต่ที่น้ำตกนี้ผมไม่ได้ลงเล่นน้ำนะครับ หนาวเกิ๊น เลยปล่อยให้น้องชายผมไปสาละวนเล่นน้ำอยู่คนเดียว ผมก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆครับ สนุกสนานดี

หลังจากเที่ยวน้ำตกกันแล้ว ผมบอกน้องว่า ผมอยากไปวัด Taman Ayun อยากไปถ่ายภาพไว้ เพราะวันนี้ฟ้าสวยมาก น้องก็พาไปครับ เพราะอยู่ห่างจากบ้านพวกเราไม่มากนัก

วัด Taman Ayun เป็นวัดเก่าแก่พันสี่ร้อยปีแล้วครับ ได้เป็นมรดกโลกด้วยนะครับ เจ๋งที่สุด การออกแบบของที่นี่ก็อิงตามความเชื่อทางศาสนา มีการขุดคูรอบล้อม สัญลักษณ์ของทะเลสีทันดร ด้านหน้าก็จะมีตัวการ์ดไว้คอยกันผีร้ายไม่ให้เข้าไปในวัดครับ

สถาปัตยกรรมวัดของบาหลี จะมีเอกลักษณ์คือหลังคาซ้อนกันเป็นชั้นๆครับ จะเป็นเลขที่ โดยเชื่อว่าหลังคาที่ยิ่งเยอะยิ่งหมายถึงวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ บูชาเทพเจ้าระดับสูง ไทยเรามีนำมาใช้โดยเป็นสัญลักษณ์ฉัตรของกษัตริย์นั่นเองครับ หลังคาที่วัด Taman Ayun มีทั้ง 11 ชั้น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแล้วครับ สวยงามใช่ย่อย

วันนี้นักท่องเที่ยวมาไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไหร่ คงเพราะเป็นวันปกติ เจอคนไทยหลายคนด้วยครับ บาหลีนี่เป็นเมืองมีเสน่ห์จริงๆ ผมชอบหลังคาที่ทำมาจากหญ้าอลังอลัง นี่จริงๆ

สำหรับวันนี้ที่เที่ยวแนะนำที่ผมไปมาก็คือ

Setbatu Temple

Gunung Kawi Sebatu Temple

น้ำตก Tegenungan waterfall

กับวัด Taman Ayun นะครับ

ผมเขียนบล็อกไม่ทันกับจำนวนการไปเที่ยวครับ อัพเดทช้าอย่าว่ากันนะครับ

EN / FR

© Copyright BackpackStory.com.

Close