สวัสดีครับ อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันส่งท้ายปีนี้แล้วนะครับ ปีนี้เป็นปีทองของการท่องเที่ยวของผมเป็นอย่างมาก จริงๆ ผมก็เพิ่มเริ่มออกเดินทางเที่ยวปีนี้แหล่ะครับ ครั้งแรกเลยก็คือบินเดี่ยวพุ่งตรงไปยังเกาะสวรรค์หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวก่อนตาย ฮ่าๆ นั่นก็คือเกาะบาหลี นั่นเอง หลังจากไปครั้งนั้น ก็ทำให้ผมได้มีมุมมองประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆเพิ่มขึ้นเยอะ ทำให้ได้รู้ว่า เห้ย โลกนี้มันใหญ่กว่าที่คิดนะ มีอะไรรอให้เราได้สัมผัสด้วยตัวเองเยอะเลย
มาดูกันครับว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมได้ไปสัมผัสที่ไหนบ้าง และได้เรียนรู้อะไรบ้าง
1. มิตรภาพข้ามพรมแดน สัมพันธ์แน่นแฟ้นที่บาหลี
บาหลีเป็นที่แรกที่ผมเลือกไปครับ เพราะนั่งดูรูปในเน็ตแล้ว โอ้โห ชอบมาก ที่นี่ผมประทับใจมากทั้งในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม และอัธยาศัยของคนบาหลี ผมได้มากกว่าคำว่าเพื่อนครับ แต่มันคือ “ครอบครัว” เลย ทำให้ปีนี้ผมไปบาหลีหลายรอบมาก ฮ่าๆ
2. ดับร้อนที่เกาะช้าง นั่งรถเสี่ยงตาย ใจหายใจคว่ำ
เป็นทริปสั้นๆ ของผมกับเพื่อนครับ เนื่องจากเราซื้อดีลของ ensogo มา เป็นดีลที่พักโรงแรมเซ็นทาราที่เกาะช้าง พวกผมก็เลยไปเที่ยวกัน ยอมรับว่าไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าการนั่งรถที่เกาะช้างจะหวาดเสียวขนาดนี้ โค้งแบบ s-curve ได้น่ากลัวมากๆ และมีประสบการณ์เดินขึ้นเขากันหลายกิโล เหงื่อแตกกันทั้งคู่ ฮ่าๆ แต่ก็เป็นทริปที่ประทับใจมาก เพราะเกาะสวย ที่พักหรู แต่ราคาประหยัด
3. สัมผัสพุทธศรัทธา ที่เมืองพม่า
ไปพม่าครั้งนี้ผมบินกันสามคนครับ เป็นอดีตรูมเมทสมัยเรียนที่จุฬาฯ และเป็นรุ่นน้องจุฬาฯอีกหนึ่งคน ทริปนี้เป็นทริปหนึ่งอาทิตย์ที่คุ้มค่ามาก ผมไปเยือนที่มัณฑะเลย์ อังวะ สกาย พุกาม ย่างกุ้ง นึกว่านั่งไทม์แมคชีนไปย้อนยุคเมืองไทยในสมัย ร.4 เพราะชาวบ้านในชนบทของพม่า ยังมีความเป็นอยู่ทีเรียบง่ายมาก นั่งเกวียน รถม้า อาบน้ำข้างถนน และธรรมชาติสวยเวอร์ๆ เจดีย์ก็อลังการมาก อยากไปซ้ำอีกรอบครับ
4. สบายดีเมืองลาว ผู้สาวผู้บ่าวคักหลาย
สำหรับประเทศลาวจะเรียกว่าเป็นทริปก็คงจะไม่ใช่สักเท่าไหร่ เพราะเป็นไปสอนหนังสือแล้วมีเวลาเลยได้เดินเที่ยวครับ ผมเลยไมไ่ด้เที่ยวเยอะสักเท่าไหร่ แต่ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนแถวนั้น เค้ามีอัธยาศัยดีมากเลยนะครับ แต่เสียดาย อาหารหารกินแพงเวอร์ แพงๆๆๆๆ มารู้ทีหลังว่ามันแพง เพราะคนลาวเองก็มักจะไม่ซื้ออาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว แต่จะซื้อผักสดปลาสดไปทำกินเองมากกว่า พอคนลาวไม่ซื้อ พ่อค้าแม่ค้าในร้านอาหารก็เลยต้องตั้งราคาแพงนั่นเอง
5. ย้อนรอยวัฒนธรรมโลก ที่บุโรพุทโธ
บุโรพุทโธมีเหตุให้ผมต้องไปถึงสองครั้งครับ ครั้งแรกไปแบบงงๆ ไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ กะเอาว่าเดี๋ยวกลับมาเปิด Google อ่านทีหลัง แต่มันไม่ใช่อะครับ รู้ทีหลัง กับรู้ก่อนไป มันให้ฟิลคนละเรื่องเลย พอกลับมาอ่านนะ เค้ามีรายละเอียดเยอะมาก มีเทคนิคการเดินชม ซึ่งผมพลาดไป ดังนั้นครั้งที่สองจึงอ่านไปแบบเต็มที่ ไปเที่ยวชมอย่างที่เค้าแนะนำมา โอ้โห ฟินที่สุด ผมอยู่จนเค้าปิดเลยครับ ตราตรึงใจไม่รู้หายจริงๆ
6. ปีนภูเขาไฟในตำนานก้องโลก ภูเขาไฟโบรโม่ และเมอราปี
เป็นภูเขาไฟคนละลูก คนละเมือง และคนละระดับความรุนแรงครับ เมอราปีอยู่ที่ยอกยาการ์ตา ส่วนโบรโม่อยู่ที่สุราบายา ทริปนี้ผมไปกับเพื่อนสองคน มันส์ที่สุดในสามโลก เป็นทริปที่มีความสุขมาก (อยากเขียน ก. ไก่ ต่อท้ายสักร้อยตัว) เพราะอากาศก็ดี ฟ้าแจ่มใส เจอเพื่อนใหม่ๆ แถมได้ภาพสวยๆกลับมาเป็นพันๆรูป
7. ลุยแดนมังกร ตามรอยหนังที่จางเจียเจี้ย เมืองจีน
อันนี้เป็นทริปเหนือความคาดหมายครับ คือว่าผมอยากไปเมืองจีนมากแต่ในเวลานั้น ไม่รู้จะไปไหนดี เพื่อนผมที่เมืองจีนเลยชวนไปเที่ยวบ้านเกิดเค้า ผมก็เลยนั่งดูรูปว่ามันมีอะไรน่าเที่ยว พอเห็นภาพแค่นั้นแหล่ะครับ หัวใจเต้นแรง รีบกดจองตั๋วด้วยมือไม้สั่นไปหมด พร้อมไปทำวีซ่าเตรียมบินในเดือนถัดไปเลยทีเดียว พอไปถึงแล้ว ประทับใจมาก สวยมาก คุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์จริงๆ
8. เที่ยวเก็บแรงบันดาลใจ บินไปสิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นประเทศท้ายๆที่ผมเลือกเดินทางในปีนี้ เพราะรอจังหวะช่วงตั๋วเครื่องบินราคาถูกครับ เป็นประเทศเล็กๆ แต่ผมกลับได้อะไรมาต่อยอดเยอะเลย เพราะได้เห็นนวัตกรรมทางความคิดของผู้คนในประเทศเค้า
9. ตะลุยเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เป็นทริปสามวันครับ ไปแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่ก็เอาชีวิตรอดกลับมาได้ เมืองนี้มีตึกราบ้านช่องที่น่าสนใจ เพราะเป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนที่เมืองไทยครับ แต่ที่ KL ผมก็รู้สึกเฉยๆ คือก็ไม่ได้ต้องร้องว้าว เหมือนเมืองอื่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ประทับใจนะครับ
10. พักร้อนปลายปี กระบี่บ้านเรา
กระบี่เป็นจังหวัดที่ผมเคยไปเยือนครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ประทับใจมาก ถึงมากที่สุด ทะเลใต้บ้านเราสวยจริงๆ ครั้งนี้ผมไปกับเพื่อนสี่คนครับ ได้ไปเที่ยวยังสถานที่ใหม่ๆ เกาะใหม่ๆ หาดใหม่ๆ ที่พักใหม่ๆ โคตรจะฟินเลยครับ เป็นทริปที่ทรงคุณค่าต่อการจดจำ ทั้งในแง่ของสถานที่ มิตรภาพ และแรงบันดาลใจ
แม้จะเห็นว่าผมเที่ยวเยอะ แต่จริงๆแล้วก็เที่ยวแบบประหยัดมากนะครับ ผมมีเทคนิคคือหาตั๋วถูกๆไว้ครับ จากนั้นก็หาโรงแรมจากเว็บ Agoda, hostel, booking, expedia ดูว่าควรจะพักที่ไหนดี การไปเที่ยวแบบได้ราคาประหยัดมันมีนะครับ แต่เราเองก็ต้องทำการบ้านด้วย ผมว่ามันสนุกตรงนี้แหล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น ที่ผมเคยทำก็คือ
บินจากกรุงเทพ > สุราบายา > ซมารัง > บาหลี > สิงคโปร์ > กัวลาลัมเปอร์ > กรุงเทพฯ
ทั้งหมดนี้แค่ 4,500 บาทเองครับ!! อยู่ที่เราวางแผนว่าจะบินไปไหนดี บินเมืองไหนก่อนหลัง
ตอนนี้ผมว่าผมได้กำไรชีวิตมาพอสมควรแล้วแหล่ะครับ แต่ปีหน้าผมก็ยังอยากจะไปเที่ยวอีก ใครอยากแบกเป้ไปด้วยกัน ก็เชิญนะค้าบ ฮ่าๆ
