เอาหละครับ ได้เวลามาอัพเดทเรื่องราวการเดินทางสู่เมืองในฝันกันต่อนะครับ หลังจากที่วันแรกเราพักกันที่เมืองเฉิงตู ไปดื่มด่ำกับอาหารและกิจกรรมต่างๆแถวนั้นแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็รีบตื่นแต่เช้า อาบน้ำอาบท่า ใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดเตรียมเช็คเอาท์ และออกไปยังที่สถานีขนส่งครับ แต่วันนั้นฝนตกปรอยๆ เราเช็คเอากันแต่เช้าตรู่ แล้วก็ไปหาข้าวเช้ากินกัน ปรากฎว่า ยังไม่มีร้านไหนที่ขายอาหารเช้ากันเลย แปลกจัง คือเค้ากินพวกหมั่นโถวอะไรแบบนี้อ่ะครับ อุย ผมก็ให้กินแป้งแบบนี้ไม่ไหว มันต้องมีกับข้าวด้วยสิ สรุปก็คือไปฝากท้องไว้ที่ร้านมินิมาร์ท ฮ่าๆ
วันนี้เราจะนั่งรถบัสไปยังจิ่วไจ้โกว ระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครับ นั่งมาราธอนมาก ก็นั่งไปหลับไป ค่ารถ 143 หยวนครับ สถานีรถบัสเนี่ยอยู่ติดกับแม่น้ำ แถวๆที่พักผมเลย เดินทางสะดวก รถออกตรงเวลาเป๊ะๆ
การเดินทางนานแบบนี้ รถจะจอดให้เราเข้าห้องน้ำเป็นระยะๆครับ ประมาณสองชั่วโมง จอดทีนึง ห้องน้ำจีนนะเหรอ เหอะๆ อย่าให้บรรยายเลยครับ แต่เอ๊ะ บรรยายดีกว่าจะได้เห็นภาพ ฮ่าๆ คือห้องน้ำเค้าจะเป็นแบบใช้รางอึร่วมกันเหมือนขุดท่อลอกน้ำ ไปถึงก็ไปนั่งยองๆคร่อมรางนั้น ประตูก็ไม่มีปิดนะครับ เดินเข้าห้องน้ำก็เห็นชาวจีนนั่งปลดทุกข์ไป เล่นมือถือไป กลิ่นก็โชยเข้าจมูก อาห์ นี่สินะเมืองจีน แถมเสียค่าเข้าด้วยนะครับ คนละ 1 หยวน
ระหว่างที่นั่งรถไปก็ดูทิวทัศน์ไปครับ หลับไปบ้าง แล้วแต่อารมณ์ ยิ่งพอเข้าใกล้จิ่วไจ้โกว ก็ยิ่งเห็นความสวยงามเผยโฉมเป็นระยะๆ ตอนก่อนไปผมก็กังวลว่าจะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีหรือเปล่านะ เพราะอ่านเจอเค้าเขียนว่าปีนี้มันเปลี่ยนสีช้า พอเริ่มเห็นข้างทางเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสี ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย
วันนั้นฟ้าไม่เปิดเท่าไหร่ครับ ดูขมุกขมัว แต่มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ พอถึงจุดพักให้ไปเข้าห้องน้ำ ทานข้าว ณ เวลานั้นฟ้าเปิดพอดีครับ โอว ดูสวยงามจริงๆ ภูเขาเมืองจีนมันเป็นเอกลักษณ์มาก คือมันไม่ใช่มีต้นไม้ใหญ่ๆอย่างเดียว มันเหมือนบางเขาก็มีแต่หิน ต้องไปดูเองครับ
จะว่าไป พอยิ่งเข้าใกล้อุทยาน การนั่งรถก็ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วครับ เพราะยิ่งเห็นใบไม้เปลี่ยนสีเพิ่มมากขึ้น ผมก็ตื่นเต้น สะกิดเพื่อน บอกว่านั่นๆไงใบไม้เปลี่ยนสีเต็มเลย เพื่อนก็ตื่นเต้นตาม ฮ่าๆ
สักพักครับ สิ่งยิ่งใหญ่อีกอย่างในชีวิตก็เกิดขึ้นคือ พวกเรามองเห็น “ภูเขาที่มีหิมะปกคลุม” โอย ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่เคยเห็นหิมะแบบเป็นๆสักที พอได้เห็นก็ชอบมาก ถ่ายรุปกันใหญ่
แม้จะมองเห็นแบบไกลตา แต่ร่างกายก็หลั่งอะดรีนาลีนพลุ่งพล่านเลยครับ สวยจริงๆ ผมอยากให้เห็นกับตาตัวเองนะครับ ว่ามันยิ่งใหญ่มากเพียงใด มือก็กดชัตเตอร์ไป ภาพเบลอบ้างอะไรบ้างไม่สน กดไว้ก่อน อีกไม่นานก็จะถึงจิ่วไจ้โกวแล้ว ขนาดข้างทางยังสวยขนาดนี้ แล้วของจริงจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ตื่นเต้นๆ
จากนั้นเวลาประมาณ 17:50 น. รถก็พาเราไปจอดเทียบท่าที่สถานีขนส่งของจิ่วไจ้โกวครับ เย่! ถึงสักที แต่ที่แห่งนี้เหมือนมันมืดเร็วมาก ผมว่าน่าจะมาจากมันเป็นสถานที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยภูเขา พอเย็นๆหน่อย พระอาทิตย์ก็ถูกภูเขาบังไว้ มันเลยมืดเร็ว
พอลงจากรถปุ๊บ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของ ขายที่พักก็จะกุลึกุจอวิ่งมาหาเราครับ พร้อมกับยื่นข้อเสนอสุดพิเศษให้เราได้เลือกใช้บริการ จริงๆตอนที่ผมไป มีโรงแรมว่างเยอะมากครับ แถมราคาก็ถูกกว่าแบบที่จองในเน็ตก็มี เสียอย่างเดียว พนักงานเค้าพูดอังกฤษไม่ได้ วันนี้ผมไปนอนที่โรงแรมที่จองผ่าน booking.com ครับ
ที่จิ่วไจ้โกว ใบไม้เปลี่ยนสีแล้วครับ! สะใจที่สุด สีสันหลากตาไปทั่วทั้งอุทยาน ผมกับเพื่อนก็เดินไปยังที่พักครับ ไม่รู้หรอกว่าอยู่ตรงไหน คลำทางกันไป และระหว่างทางก็เห็นลำธารสองสีด้วย สองสีแบบคอนทราสต์กันสุดฤทธิ์ สวยเวอร์ๆ
วันนี้เราเพลียกันมาก เพราะตื่นแต่เช้า แถมนั่งรถนานเป็นวัน พอถึงที่พัก ก็ออกมาหาอะไรกิน สุดท้ายก็เข้านอนครับ วางแผนไว้ว่าวันรุ่งขึ้นจะรีบตื่นแต่เช้าไปซื้อตั๋วเข้าอุทยาน
ตอนต่อไปจะพาไปชมความงามแบบเหนือความคาดหมายของอุทยานแห่งนี้ การันตีความเด็ดสะระตี่เลยครับ แล้วเจอกันคร้าบบ
