มิตรภาพต่างแดน – Backpack Story https://backpackstory.com แบกเป้เที่ยวรอบโลก เก็บประสบการณ์การเดินทาง Tue, 31 May 2016 18:27:19 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.4.4 https://backpackstory.com/wp-content/uploads/2018/06/cropped-bp-32x32.png มิตรภาพต่างแดน – Backpack Story https://backpackstory.com 32 32 เที่ยวคนเดียวอย่างไร ไม่ให้เหงา https://backpackstory.com/travel-alone-but-no-lonely.html https://backpackstory.com/travel-alone-but-no-lonely.html#respond Thu, 23 Oct 2014 04:55:43 +0000 http://backpackstory.com/?p=582 ไปเที่ยวคนเดียว เหงาบ้างไหม? สำหรับผม ผมไม่เคยเหงาเลยนะครับ อาจจะเพราะโดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบชวนคนอื่นพูดอยู่แล้วด้วย ฮ่าๆ ชอบ make friend กับคนข้างๆ ผมว่าการเดินทางถ้าเราทำตัวให้เหงามันก็เหงาครับ ทริปส่วนใหญ่ของผม แม้ผมจะออกเดินทางคนเดียว แต่เอาเข้าจริงก็ได้เพื่อนร่วมทริประหว่างทางแทบจะทุกครั้งครับ เมื่อเดินทางมากขึ้น ทำให้ผมได้รู้มากขึ้นว่า ถ้าจะเที่ยวแบบไม่ให้เหงานั้น ทำอย่างไร มาดูกันครับ

The post เที่ยวคนเดียวอย่างไร ไม่ให้เหงา appeared first on Backpack Story.

]]>
ไปเที่ยวคนเดียว เหงาบ้างไหม? สำหรับผม ผมไม่เคยเหงาเลยนะครับ อาจจะเพราะโดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบชวนคนอื่นพูดอยู่แล้วด้วย ฮ่าๆ ชอบ make friend กับคนข้างๆ ผมว่าการเดินทางถ้าเราทำตัวให้เหงามันก็เหงาครับ

ทริปส่วนใหญ่ของผม แม้ผมจะออกเดินทางคนเดียว แต่เอาเข้าจริงก็ได้เพื่อนร่วมทริประหว่างทางแทบจะทุกครั้งครับ

เมื่อเดินทางมากขึ้น ทำให้ผมได้รู้มากขึ้นว่า ถ้าจะเที่ยวแบบไม่ให้เหงานั้น ทำอย่างไร มาดูกันครับ

1. เลือกที่พักแบบ Hostel หรือ Dormitory

การเลือกที่พักก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนกลัวเหงาน่าจะรู้ไว้ นั่นก็คือถ้าคุณเลือกที่พักแบบ Hostel หรือ Dormitory คุณจะได้เพื่อนใหม่เยอะมากๆ แถราคาก็ถูกด้วยสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว (ถ้าหากคุณไปเป็นกลุ่มก้อน และไม่ชอบนอนห้องรวมกันหลายคน ผมแนะนำให้นอนโรงแรม เพราะอย่างน้อยคุณนอนสองคนกับเพื่อน ก็หารค่าห้องกันได้ โรงแรมเค้าคิดต่อห้อง แต่ Hostel เค้าคิดต่อเตียงครับ)

ข้อดีของการนอน Hostel เราจะได้เจอเพื่อนๆที่ชื่นชอบการเดินทางแนวเดียวกัน มีโอกาสได้รู้จักและแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิต

วันแรกๆที่ผมไปที่เกาะลันตา ผมได้เพื่อนใหม่สามคน (คือตอนนั้นทั้ง Hostel มีแขกแค่นี้ เพราะมันหน้าโลว์) เป็นสาวจากอังกฤษ หนุ่มอิตาลี และหนุ่มมาเลเซีย ถ้ารวมผมด้วยก็คือหนุ่มไทยบ้าน ฮ่าๆ

สามคนในกลุ่มเรานั้นเป็น Designer! สาวอังกฤษ เป้น Illustrator ให้กับแบรนด์เสื้อผ้า Paul Smiths ผมเป็น Web Designer และเพื่อนมาเล เป็น Printing Illustrator เวลาคุยกันเรื่องดีไซน์นี่ออกรสชาติมาก ส่วนหนุ่มอิตาลี ก็จะแซวประมาณว่า ใช่ซี้ ผมมาอยุ่กับกลุ่มพวกนักออกแบบ ผมมันแกะหลงฝูง ฮ่าๆ

เรื่องสนุกอีกอย่างของการได้นอน Hostel คือ เพื่อนที่มาพักจะมาจากหลากหลายที่ สำเนียงภาษาจะมีเอกลักษณ์ไปตามแต่ละท้องถิ่น

IMG_9659

ค่าที่นอนใน Hostel ก็ราคาไม่แพงถ้าเราไปคนเดียวนะครับ ราคามีตั้งแต่ 140 บาทขึ้นอยู่กับคุณภาพของ Hostel แต่ถ้าให้ผมแนะนำ ผมแนะนำให้คุณมองหาที่พัก ที่มันดูสมเหตุสมผล ดูเรื่องความปลอดภัย สถานที่ตั้ง อย่าเน้นถูกจนมองข้ามความปลอดภัยในชีวิตไปครับ เพื่อนจากแคนาดาคนหนึ่งเคยถูกขโมยกล้อง GoPro ตอนพักในโฮสเท็ลที่อินโดนีเซีย หรือเพื่อนสวีเดนคนหนึ่งไปพักที่พักคืนละ 140 บาท แต่ดูสภาพแล้ว อืม 140 บาทยังแพงไปด้วยซ้ำสำหรับความคุ้มค่าที่ได้กลับมา

IMG_9304

** สำหรับภาพนี้คือห้องพักใน Hostel ที่ผมไปพักครับ

แถมอีกนึดเรื่องความปลอดภัยในการพักที่ Hostel เพราะหลายท่านยังไม่มีประสบการณ์การนอนห้องรวม ก็กังวลว่าของจะหายหรือเปล่า โดยทั่วไปเค้าจะมี Locker ส่วนบุคคลให้เราครับ เราก็เอาของมีค่าไปใส่ไว้แล้วก็ล็อคไปเลย โอกาสหายก็มีน้อยมากครับผม

เว็บไซต์ที่ผมแนะนำสำหรับการจองที่พักคือเว็บ www.booking.com กับเว็บ www.hostelworld.com ครับ แต่ถ้าไปจองหน้าที่พักเลย ผมแนะนำให้ไปดูเรื่องสภาพห้องนอน เตียง ห้องน้ำ ก็ดีนะครับ อย่างเช่น Hostel ที่เมืองจีน ห้องจะสะอาด แต่ห้องน้ำอาจจะไม่อภิรมย์สักเท่าไหร่ ฮ่าๆ

2.  หาเพื่อนระหว่างทาง

ไปเที่ยวคนเดียว ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเดินทางเที่ยวทุกที่คนเดียวนี่ครับ เราสามารถหาเพื่อนใหม่ได้ และถ้าเพื่อนใหม่มีนิสัยคล้ายๆกัน เราก็ชวนกันไปเที่ยวด้วยกันเลย อย่างเช่นตอนผมไปเที่ยวจีน ผมก็ได้เพื่อนใหม่ร่วมเดินทางเป็นอาตี๋ในโฮสเท็ล เราไปเที่ยวแบบผจญภัยสนุกมาก ได้ผ่านเส้นทางที่เป็นเส้นทางเฉพาะคนในหมู่บ้านที่ใช้กัน หรือไปเที่ยวเกาะลันตา ผมก็ได้เพื่อนใหม่ชาวมาเลเซีย เราสองคนซ้อนมอไซต์ขับกันรอบเกาะ ไปพายเรือคายัคกันที่เกาะรอบๆ ก็สนุกไปอีกแบบ

IMG_9758

ยิ่งถ้าคุณพักใน Hostel อย่างที่ผมพูดถึงในตอนต้น คุณอาจจะชวนรูมเมทไปเที่ยวด้วยกันก็ได้นะครับ

อย่างไรก็ดี การมีเพื่อนเที่ยวต้องเอาให้แน่ใจว่านิสัยเข้ากับได้ อย่างผมเป็นคนชอบถ่ายรูป ใช้เวลาในแต่ละที่นาน บางทริปผมก็เลยเลือกที่จะไปเที่ยวแต่ละที่คนเดียว เพราะไม่อยากให้คนอื่นรอ แต่พอกลับมาที่พักจะไปทานข้าวกัน ก็นั่นแหล่ะครับค่อยไปจอยกัน

3. เที่ยวให้ช้าลง

แต่ละคนมีแนวทางการเดินทางที่แตกต่างกันไปนะครับ หลายคนจะเน้นเที่ยวให้หลากหลายสถานที่ แต่ละที่อาจจะไม่นาน หลายคนก็เลือกที่จะเที่ยวแบบเจาะๆ ให้อิ่มในอารมณ์ ผมเป็นพวกประเภทเจาะๆให้อิ่มเอมในแต่ละที่ครับ การท่องเที่ยวนอกจากจะได้ไปเห็นภูมิทัศน์ของสถานที่นั้นๆแล้ว การได้พบปะผู้คนที่นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่สร้างความประทับใจให้เราได้ครับ อย่างเช่นผมไปเที่ยวบาหลี ทำไมผมกลับไปซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมกลับไปเพราะผมมีมิตรภาพดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางครับ

IMG_9772

เที่ยวให้ช้าลง หมายถึงการเที่ยวแบบเก็บเรื่องราวให้มากขึ้น ได้สัมผัสความเป็น “สิ่งๆนั้น” มากกว่าเดิม การเที่ยวแบบเร่งรีบ หลายครั้งเราจะพลาดโอกาสให้การรู้จักเพื่อนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ

ยกตัวอย่างนะครับ ตอนที่ผมไปเที่ยว Zhangjiajie แม้ผมจะเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่รอบที่สอง ผมกลับได้เจอสถานที่เที่ยวใหม่ๆ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก คือผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีสถานที่แบบนี้อยู่ในเมืองนี้ด้วย เพราะไม่เคยเห็นในหนังสือนำเที่ยวมาก่อน (หมายถึงที่ผมอ่านนะครับ) นี่แหล่ะครับ หลายๆครั้งการที่เราใช้เวลาในแต่ละจุดให้ช้าลง ก็จะได้เจออะไรใหม่ๆด้วย

ทั้งหมดนี่เป็นทริคเล็กๆน้อยๆที่ผมเรียนรู้จากการเดินทางคนเดียว

หากใครที่กำลังจะเดินทางลุยเดี่ยวแล้วกลัวเรื่องความเหงา ก็ลองเอาเทคนิคผมไปใช้ดูนะครับ 🙂

The post เที่ยวคนเดียวอย่างไร ไม่ให้เหงา appeared first on Backpack Story.

]]>
https://backpackstory.com/travel-alone-but-no-lonely.html/feed 0
ลุยเดี่ยวเที่ยวจีน ตอนที่ 2 เที่ยวเมืองโบราณเฟิงหวง เสน่ห์ไร้กาลเวลา https://backpackstory.com/solo-travel-in-fenghuang.html https://backpackstory.com/solo-travel-in-fenghuang.html#respond Sun, 01 Jun 2014 10:08:37 +0000 http://backpackstory.com/?p=522 การเดินทางทำให้ผมได้เจอเรื่องราวใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ จุดหมายปลายทางมันสำคัญ แต่เรื่องราวระหว่างทางมีความหมายไม่แพ้กันครับ มันช่วยเติมเต็มให้การเดินทางครั้งนี้มีความหมายมากขึ้น ผมขอบคุณสำหรับทุกมิตรภาพที่ผมได้รับจริงๆ และวันต่อๆมา เรื่องราวดีๆ ก็ยังมีให้ติดตามอีกครับ หลงรักเมืองจีนแล้วครับ

The post ลุยเดี่ยวเที่ยวจีน ตอนที่ 2 เที่ยวเมืองโบราณเฟิงหวง เสน่ห์ไร้กาลเวลา appeared first on Backpack Story.

]]>
มาต่อตอนที่สองกันครับ เนื่องจากทริปนี้ไปยาวมาก ผมก็จะแบ่งเขียนเป็นตอนๆไป อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ หลังจากที่อีริคกลับบ้านไปแล้ว

จากนั้นก็นั่งรอรถครับ แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมรถถึงยังไม่มา เวลาก็ใกล้แล้ว ผมก็เลยไปถามพนักงานแถวนั้น เค้าก็บอกว่าเหมือนมันยังมาไม่ถึง โอเค เข้าใจได้ แต่พอได้เวลาแล้ว ก็ไม่เห็นเค้าเรียกหรือพูดว่า Fenghuang เลย ผมเองก็กังวลใจ เห้ยเกิดอะไรขึ้น เลยเดินไปถามอีกรอบ เค้าก็พูดอะไรต้านๆเตี้ยนๆ ผมเองก็งงๆ เดินกลับมาจากงงๆ เลยสะกิดคนที่นั่งหันหลังให้ผม ปรากฎว่าเป็นตี๋หนุ่มอายุใกล้เคียงกันครับ และนี่คือมิตรภาพอีกหนึ่งน้ำใจทีผมประทับใจไม่รุ้ลืม

IMG_0335
ถ่ายภาพหน้าประตูเข้าเมืองเฟิงหวงกับ Li Hui ครับ

ตี่หนุ่มคนนี้ชื่อว่า หลีฮุ่ย เค้าบอกว่าเค้าพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แต่เค้าก็พยายามช่วยด้วยการหยิบมือถือขึ้นมาแล้วก็ใช้แอพแปลภาษาครับ ซึ่งเค้าก็บอกว่ารถมาสาย และเค้าก็จะไปเฟิงหวงเหมือนกัน เป็นบ้านเกิดเค้าเอง ผมก็ดีใจครับ บอกว่าดีจัง เราก็นั่งคุยกันผ่านแอพแปลภาษากันจนรถมา หลีฮุ่ยเพิ่งมาจากปักกิ่ง และเชี่ยงไฮ้ เค้าจะกลับไปบ้านคืนหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปทำงานอีกเมืองหนึ่ง

บรรยากาศยามเช้าของเมืองเฟิงหวง
บรรยากาศยามเช้าของเมืองเฟิงหวง

หลีฮุ่ยถามผมบอกว่า จะรังเกียจไหม ถ้าจะขอนั่งด้วย ผมก็บอกว่าไม่เลย ดีซะอีกผมจะได้มีเพื่อน เค้าก็เลยขอแลกที่นั่ง และเราก็นั่งคุยกันตลอดหกชั่วโมงผ่านแอพครับ สามารถมาก นี่ถ้าคุยภาษากันได้ ผมว่าคงคุยกันถูกปากแน่ๆ

ระหว่างทางผมหิวครับ ท้องร้องจ้อกเลย หลีหุ่ยหัวเราะ แล้วบอกว่าเค้ามีอาหารนะ พูดแล้วก็ลุกไปหยิบกระเป๋าพร้อมกับเอาข้าวมาแบ่งกันกิน เป็นเหมือนเกี้ยวซ่าครับ แต่ข้างในเป็นข้าวผัด เจ๋งดีนะ ทำเป็นก้อนๆ อร่อยด้วย เค้าแบ่งกับผมคนละถุง ในหนึ่งถุงมีประมาณหกชิ้น คือแค่สามชิ้นก็อิ่มแปล้แล้วคับ เค้าให้ผมเก็บไว้ กินต่อเผื่อหิวตอนอยู่โรงแรม

IMG_0382
Snow Bridge สะพานเชื่อมหมู่บ้านทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเข้าด้วยกัน เป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากๆ

แถมไวไฟผมก็ไม่มีด้วยครับ หลีฮุ่ยบอกว่าเอาของเค้าไปก็ได้นะ แชร์กันเล่น และแบ่ง powerbank ให้ผมชาร์ตมือถือด้วย คือแบบใจดีมาก

เค้ารุ้ว่าผมมีปัญหาเรื่องซิมมือถือ หลีฮุ่ยบอกว่า รอแป็บ จะโทรหาแม่ก่อน ถามว่าโรงแรมที่ว่ามันอยู่แถวไหน แล้วก็คุยภาษาจีนอะไรไม่รู้ จากนั้นก็บอกว่า มันอยู่ในซอยนะ ผมไปเองน่าจะงง เดี๋ยวเค้าจะไปส่งผมเอง ผมก็ขอบคุณเป็นการใหญ่

IMG_0383
Snow Bridge ในอีกมุมหนึ่ง

ระหว่างทางเราแลกเปลี่ยนรูปภาพที่เราไปเที่ยวกันครับ และพอถึงเฟิงหวง หลีฮุ่ยก็โบกแท็กซี่เข้าไปในตัวหมู่บ้าน และพยายามแย่งออกตังค์อีก ผมก็บอกว่าไม่ต้องๆ ผมออกเอง หลีฮุ่ยดูอัพเซ็ทนิดๆ ฮ่าๆ

ถึงเฟิงหวงก็ประมาณ 23:30 ครับ สวยมาก หลีฮุ่ยบอกว่า รอแป็บ จะขอให้คนถ่ายภาพให้พวกเราสองคนหน่อย แล้วก็ถ่ายภาพกันพอประมาณ จากนั้นก็เดินไปส่งผมที่โรงแรมครับ เออโรงแรมลึกลับจริงๆด้วย ฮ่าๆ ก่อนจากกันเราก็ร่ำลากันคับ หลีฮุ่ยบอกว่า มีอะไรก็ส่ง QQ บอกเค้านะ ระวังตัวด้วย ผมก็บอกว่าโอเค คืนนั้นหลีฮุ่ยก็ส่งข้อความมาเตือนอีกว่า เที่ยวคนเดียวระวังตัวนะ ถ้าเข้าบาร์ก็ระวังสาวๆด้วย ฮ่าๆ ถ้าจะดีอย่าเที่ยวกลางคืน (หมายถึงผับบาร์) เลย ให้เที่ยวธรรมชาติอะไรแบบนี้จะดีกว่า

IMG_0394
แม่น้ำสะอาดมาก เพราะทุกเช้าจะมีชาวบ้านออกมาเก็บกวาดขยะที่อยู่ในแม่น้ำ น่าประทับใจมาก

วันรุ่งขั้นผมรีบตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปดื่มด่ำความสวยงามของเมืองนี้ เมืองนี้สวยเวอร์ เหมือนมาอยู่ในหนังจีนกำลังภายใน ฮ่าๆ แต่ว่ามาเที่ยวคนเดียว แหม่ ไม่มีรูปตัวเองเลยวุ้ย ผมเลยขอให้คนนั้นๆคนนี้ถ่ายภาพให้ ซึ่งก็โอเคมาก และนั่นก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นของมิตรภาพเล็กๆระหว่างเดินทาง

มองลอดสะพาน Snow bridge ของเมืองเฟิงหวง ได้มุมมองไปอีกแบบ
มองลอดสะพาน Snow bridge ของเมืองเฟิงหวง ได้มุมมองไปอีกแบบ

ผมขอให้สองสาวที่ยืนอยู่ริมทางถ่ายภาพให้ผมหน่อย เค้าก็พูดอังกฤษไม่ได้เลย แต่ก็ใช้ท่าทางสือสารกัน จริงๆคุยกันด้วยแต่คนละภาษา ผมก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจ จริงๆไม่รู้เลย ฮ่าๆ พอถ่ายภาพให้ผมเสร็จ เค้าก็ถามผมว่าพูดจีนไมไ่ด้หรือ (อันนี้ผมฟังออก) บอกว่าไม่ได้เท่าไหร่ ผมเป็นคนไทย เค้าก็บอกว่าโอ นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ระวังเรื่องราคานะ แพง และฝนก็ตกครับ เราเลยยืนหลบฝนด้วยกัน พอฝนเริ่มซา ก็มีแม่ค้าขายร่ม เค้าก็ถามว่า Ni Yao ma? แปลว่า ต้องการไหม? เสียงแบบว่า คุณหนูมาก ฮ่าๆ แต่งกายเรียบร้อยด้วย ดูมีสกุลรุนชาติจริงๆ ผมก็บอกว่า Wo yao yi ge. เค้าก็บอกว่างั้นมาด้วยกันเลย จะได้ไม่ถูกเค้าโกงราคา แล้วเค้าก็ต่อราคามั้งครับ ได้มาคันละ 12 หยวน และเราก็ร่ำลากัน

IMG_0407
บรรยากาศยามเช้าตรู่ของเมืองเฟิงหวง

ตอนเย็น ผมได้รับ QQ จากหลีฮุ่ย บอกว่า สนเอ้ย วันนี้พระเจ้าไม่เข้าข้างนาย เพราะส่งฝนมากระหน่ำเมืองเฟิงหวง พร้อมกับหัวเราะ ผมบอกว่า เห้ย พระเจ้าไม่อยากให้ผมร้อน เพราะอยู่กรุงเทพฯ ผมก็ร้อนพอแล้ว พระเจ้าเลยส่งความเย็นมาให้ผมต่างหากหละ แล้วก็หัวเราะกลับไป หลีฮุ่ยบอกว่า จริง พอฝนหยุดนายจะเห็นว่าเมืองนี้สวยไปอีกแบบ และก็เป็นดั่งเค้าว่าครับ สวยมาก เพราะมีหมอก มีเมฆปกคลุมภูเขา เหมือนภาพวาดเลย

สวยแบบไร้กาลเวลา ที่เมืองเฟิงหวง
สวยแบบไร้กาลเวลา ที่เมืองเฟิงหวง

ตอนทุ่มกว่าๆ QQ ผมก็เตือน มีเพื่อนที่อยู่ฉางชาส่งข้อความมาขอโทษขอโพย เป็นคนละคนกับอีริคนะครับ เพื่อนคนนี้เรารู้จักกันอยู่แล้ว ตอนแรกเพื่อนว่าจะมาเที่ยวด้วย แต่ปีนี้เพื่อนเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการของบริษัท เลยชีวิตวุ่นมาก หาวันหยุดไม่ได้ (เพิ่งมารู้ว่าคนจีนนี่การได้หยุดติดกันสามวันถือว่าเป็นสวรรค์มาก รู้สึกดีใจที่เมืองไทยมีวันหยุดเยอะ ฮ่าๆ) เพื่อนผมก็ส่งข้อความมาสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง โอเคไหม เป็นห่วงมาก เพราะนายไม่ได้ภาษาจีนเลย ผมก็บอกไปว่า เห้ย ผมพูดจีนพื้นฐานได้แล้วนะ ฮ่าๆ จากนั้นเพื่อนผมก็แนะนำโน่นนี่นั่นอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าระวังตัวด้วยนะ เพื่อนดีใจที่ผมเจอแต่คนดีๆ แต่ก็ไม่อยากให้ผมประมาท

IMG_0416
ในตอนเช้าผู้คนยังไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าใดนักที่เมืองเฟิงหวง

การเดินทางทำให้ผมได้เจอเรื่องราวใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ จุดหมายปลายทางมันสำคัญ แต่เรื่องราวระหว่างทางมีความหมายไม่แพ้กันครับ มันช่วยเติมเต็มให้การเดินทางครั้งนี้มีความหมายมากขึ้น ผมขอบคุณสำหรับทุกมิตรภาพที่ผมได้รับจริงๆ และวันต่อๆมา เรื่องราวดีๆ ก็ยังมีให้ติดตามอีกครับ หลงรักเมืองจีนแล้วครับ

The post ลุยเดี่ยวเที่ยวจีน ตอนที่ 2 เที่ยวเมืองโบราณเฟิงหวง เสน่ห์ไร้กาลเวลา appeared first on Backpack Story.

]]>
https://backpackstory.com/solo-travel-in-fenghuang.html/feed 0
ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองจีน มิตรภาพมิรู้ลืม ฉางชา เฟิงหวง จางเจียเจี้ย ตอนที่ 1 https://backpackstory.com/backpack-to-travel-in-fenghuang.html https://backpackstory.com/backpack-to-travel-in-fenghuang.html#comments Sun, 01 Jun 2014 07:33:22 +0000 http://backpackstory.com/?p=509 วันแรกของผม ผมเจอเรื่องประทับใจเยอะมากตั้งแต่อยู่บนเครื่อง ซึ่งผมจะขอเล่าให้ฟังครับ เพราะอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆที่ผมเจอมา ตอนอยู่บนเครื่องผมนั่งติดกับสองสาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทย ตามธรรมเนียมผมก็จะทักทายคนที่นั่งติดกัน เพื่ออย่างน้อยก็ได้ผ่อนคลายบรรยากาศ

The post ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองจีน มิตรภาพมิรู้ลืม ฉางชา เฟิงหวง จางเจียเจี้ย ตอนที่ 1 appeared first on Backpack Story.

]]>
ผมตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เพราะตื่นเต้นมากกับทริปนี้ เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในลิสต์ 100 สถานที่แนะนำของจีนด้วย แถมยังเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเทียนเหมินซาน จางเจียเจี้ยด้วย ซึ่งแม้สองสถานที่หลังนั้นผมเคยไปมาแล้ว แต่ผมก็ยังอยากไปเยือนอีกรอบ

ครั้งนี้ผมเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองครับ เป็นการบินตรงสู่ฉางชา แถมเป็นทริปแรกที่ผมจะเดินทางลุยเดี่ยวในเมืองจีนด้วยนะครับ

IMG_0322

วันแรกของผม ผมเจอเรื่องประทับใจเยอะมากตั้งแต่อยู่บนเครื่อง ซึ่งผมจะขอเล่าให้ฟังครับ เพราะอยากแบ่งปันเรื่องราวดีๆที่ผมเจอมา ตอนอยู่บนเครื่องผมนั่งติดกับสองสาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทย ตามธรรมเนียมผมก็จะทักทายคนที่นั่งติดกัน เพื่ออย่างน้อยก็ได้ผ่อนคลายบรรยากาศ สองสาวพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องครับ แต่ก็พยายามมาก เราแนะนำตัวกัน ทั้งสองคนเป็นหมอครับ อายุยังน้อยอยู่เลย น่าจะเพิ่งเรียนจบ (จากที่ถามมา) สองสามรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อทราบว่าผมจะเดินทางไปเที่ยวเมืองจีนคนเดียว
“เมืองจีนระวังถูกหลอกนะ เป็นคนต่างชาติ เค้าจะฟันราคา” ทั้งสองพยายามบอกผมแบบนี้ ซึ่งผมเองก็เข้าใจ เพราะทุกที่เป็นแบบนี้หมด ฮ่าๆ ผมก็ขอบคุณเค้า บอกว่าผมจะพยายามครับ

IMG_0350

เราคุยกันตลอดการเดินทางบนเครื่อง (แต่สองชั่วโมงหลัง เราพากันหลับ เพราะมีแต่คนตื่นเช้า) ก่อนจะลาจากกันเราแลก QQ กันครับ และเค้าให้เบอร์โทรผมไว้ด้วย บอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรระหว่างเดินทาง โทรหาเค้าได้เลยนะ พร้อมกับแนะนำว่าซื้อซิมจริงๆแค่ 50RMB ก็เพียงพอแล้วแหล่ะ เป็นสองสาวที่นิสัยดีมากครับ นี่เป็นเรืองประทับใจเรื่องที่หนึ่ง

IMG_0363

เมื่อมาถึงสนามบิน ระหว่างที่จะเอากระเป๋าของชั้นวาง ก็มีผู้หญิงสาวจีนตัวเล็กๆคนหนึ่งเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ขอให้ผมหยิบกระเป๋าให้หน่อย ซึ่งผมก็ยินดี เค้าถามผมว่าเป็นคนไทยเหรอ? ผมก็บอกว่าใช่แล้วครับ เค้าบอกว่ามาเที่ยวกับใคร ผมก็ตอบว่ามาคนเดียว เค้าก็บอกว่า โอ ระวังตัวหน่อยนะ เพราะว่าเมืองจีนจะฟันราคานักท่องเที่ยว แหม่ว์ แต่ละคน โปรโมทประเทศตัวเองดีจัง ฮ่าๆ เค้าถามว่าจะเดินทางไปที่ไหน ผมก็บอกว่าจะไปเฟิงหวง เค้าเลยอาสาพาไปขึ้นรถบัสคับ ระหว่างนั้นเค้าก็ชวนคุยหลายๆอย่าง ผมว่าคนจีนก็นิสัยดีนะ คือคนส่วนใหญ่ที่ผมเจอเค้าก็ต้อนรับนักท่องเที่ยวดี ยิ่งมาคนเดียวเค้าก็พากันเป็นห่วง

ผมบอกว่าจริงๆแล้วมีเพื่อนจีนคนหนึ่งเค้าบอกว่าจะมารับที่สนามบิน แต่ผมก็ไม่เคยเจอตัวจริงหรอกนะครับ พอถึงทางออกก็มองเห็นหนุ่มตี๋ใส่แว่น ชูป้ายกระดาษเขียนชื่อผมอยู่ ผมก็เลยลาสาวน้อยคนนั้น พร้อมบอกว่านั่นแหล่ะคือเพื่อนของผมที่มารับครับ เราเลยจับมือร่ำลากัน

eric

ตี๋หนุ่มคนนี้เพิ่งมาฉางชาเมื่อวานครับ และก็อาสามารับที่สนามบินเลย ชื่อว่า Eric เพื่อนคนนี้พาไปซิ้อตั๋วรสบัสเพื่อไปยัง Railway station ราคา 16 หยวนนะครับ แต่เค้าก็ออกให้ผม ซึ่งผมเองก็ไม่อยากรบกวนเลย แต่แปลกแฮะ คนที่นี่มักจะต้อนรับเพื่อนด้วยการพยายามออกให้ ก็คงเหมือนตอนที่เพื่อนผมไปหาที่เมืองไทย ผมก็พยายามออกให้กระมัง

เรานั่งรถไปถึงตัวเมืองกัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ครับ เมืองฉางชาเป็นเมืองที่ใหญ่มาก เป็นเมืองหลวงของมณฑลหูหนาน ในตัวเมืองก็ดูเป็นเมืองครับ แลดูวุ่นๆ ฮ่าๆ

IMG_0384

เมื่อถึงที่สถานีรถไฟแล้ว อีริคก็พาผมไปทานข้าวเที่ยงก่อน เค้าก็พยายามจะออกให้ผมอีก ผมบอกว่า เห้ย อย่าเยอะ ขอออกเองบ้างอะไรบ้าง มาครั้งก่อนก็เพื่อนสปอยดีเกินจนเกรงใจจนไม่เป็นตัวของตัวเอง และถือว่าเป็นการแลกกันที่เค้าซื้อตั๋วรถให้ผม ผมเลยขออาสาเลี้ยงข้าว เราแย่งกันออกตังค์ครับ ฮ่าๆ ค่าอาหารกลางวันสองคนก็ 50 RMB ไม่ถือว่าแพง เพราะอาหารเป็นชุด กินไม่หมด เลยด้วยซ้ำ

จากนั้นก็ไปซื้อ sim card ก่อนครับ แปลกแฮะที่ร้านที่ไปมีแต่ราคาแพงๆ และผมต้องการเน้น internet จึงซื้อตัว 150RMB มาซึ่งก็โอเค ไม่ได้มายด์มาก แต่ปรากฎว่าใช้กับมอืถือผมไม่ได้! พอใส่ปุ๊บเครื่องรีสตาร์ทเองตลอดครับ งงมาก เกิดอะไรขึ้นเนี่ย แต่ก็ซื้อมาแล้ว ก็เลยทำใจ เสียดายตังค์มากตอนนั้น และเราเสียเวลาอยู่ร้านซิมมือถือนานเกินไป จนอีริครู้ว่าเห้ยเวลาผ่านไปเยอะแล้ว ต้องรีบไปสถานีรถบัสซึ่งอยู่ห่างออกไปพอสมควร

เรานั่งแท็กซี่ไปครับทั้งหมดก็ 23 RMB แล้วก็ไปซื้อตั๋วไปเฟิงหวง 150 RMB ครับ แต่เราพลาดรอบบ่ายสองครึ่ง ทำให้ผมต้องรอรอบห้าโมงยี่สิบ อิีริคก็ขอโทษผมเป็นการใหญ่ ว่ารู้สึกเสียใจที่ทำให้ผมต้องเสียเวลา และอีริคเองก็มีธุระต้องทำต่อในช่วงบ่าย ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไร ผมอยู่ได้ อีริคเลยขอตัวกลับบ้านก่อน แต่สักพัก ก็เดินมาหาอีก บอกว่าอยุ่ได้นะ ผมก็บอกว่าอยู่ได้ดิ

จากนั้น Eric ก็เดินทางกลับบ้านไปครับ ผมก็นั่งรอจนกระทั่งได้เวลาที่รถบัสควรจะมาถึงแล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีวี่แววว่าเอ๊ะ แล้วทำไมพนักงานไม่เรียกไปขึ้นรถสักที ผมก็เลยเดินไปถามพนักงานตรงจุดขึ้นรถครับ ถามเป็นภาษาอังกฤษ เค้าตอบมาเป็นภาษาจีน เป็นยังไงละ ทักษะภาษาจีนของผม เงิบสิครับ! คืออะไรหว่า? เค้าก็ตะโกนพูดเสียงดัง ผมก็เลยเดินหงอยกลับมาที่นั่งรออย่างงงๆ

แต่เพราะความกระวนกระวายใจ ยังไงก็ต้องเมคชัวร์ให้ได้ว่า รถมันมาแล้วหรือยัง ก็เลยหันไปสะกิดคนที่นั่งหันหลังให้ผมครับ (ที่นั่งรอจะเป็นแบบหันหลังชนกัน) ปรากฎว่าเป็นตี๋หนุ่มวัยใกล้เคียงกับผมครับ เขาพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แต่ก็เฟร็นด์ลี่มากๆ และนี่คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่ผมจะไม่มีวันลืมอีกเรื่องเลย ซึ่งผมจะเล่าต่อในตอนหน้าครับ แล้วเจอกันครับ บอกไว้ก่อนเลยว่า ทริปนี้ ฟินที่สุด

The post ลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองจีน มิตรภาพมิรู้ลืม ฉางชา เฟิงหวง จางเจียเจี้ย ตอนที่ 1 appeared first on Backpack Story.

]]>
https://backpackstory.com/backpack-to-travel-in-fenghuang.html/feed 1