ดาลัด – Backpack Story https://backpackstory.com แบกเป้เที่ยวรอบโลก เก็บประสบการณ์การเดินทาง Sun, 07 Jun 2020 07:46:56 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.4.4 https://backpackstory.com/wp-content/uploads/2018/06/cropped-bp-32x32.png ดาลัด – Backpack Story https://backpackstory.com 32 32 ตะลุยเวียดนามตอนที่สอง หนาวนี้ที่ดาลัด https://backpackstory.com/%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87.html https://backpackstory.com/%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87.html#comments Mon, 31 Mar 2014 16:43:02 +0000 http://backpackstory.com/?p=406 ตอนที่สองนี้จะเป็นเรื่องราวการเดินทางเที่ยวเวียดนามแบบไร้การวางแผน ทุกก้าวคือประสบการณ์แบบสดๆครับ ตอนนี้ผมมาถึงเมืองดาลัดเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลานั่งรถนอนจากเมืองโฮจีมินห์มาที่เมืองดาลัดประมาณ 7 ชั่วโมงครับ มาถึงตอน 5:3o น. โอ้โห อากาศต่างกันราวฟ้ากับเหว ที่นี่หนาวม้าก ดีนะที่ผมเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย

The post ตะลุยเวียดนามตอนที่สอง หนาวนี้ที่ดาลัด appeared first on Backpack Story.

]]>
ตอนที่สองนี้จะเป็นเรื่องราวการเดินทางเที่ยวเวียดนามแบบไร้การวางแผน ทุกก้าวคือประสบการณ์แบบสดๆครับ ตอนนี้ผมมาถึงเมืองดาลัดเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลานั่งรถนอนจากเมืองโฮจีมินห์มาที่เมืองดาลัดประมาณ 7 ชั่วโมงครับ มาถึงตอน 5:3o น. โอ้โห อากาศต่างกันราวฟ้ากับเหว ที่นี่หนาวม้าก ดีนะที่ผมเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย

ผมไม่ได้จองโรงแรมล่วงหน้านะครับ แต่ก็ระหว่างนั้นผมก็นั่งเล่นเน็ตดูราคาโรงแรมใน agoda  ไปพลางๆ อือ ราคาก็ไม่ได้แพงมาก แต่ก็คิดไว้ว่าเดี๋ยวจะไปเดิน Walk in หาดูอีกทีก็ได้ ทริปนี้เราชิลอยู่แล้วนี่นา อ้อ ผมซื้อซิมเล่นเน็ตของ mobiphone นะครับ ไม่แพง ประมาณร้อยกว่าดอง เน็ตแรงดีใช้ได้เลยครับ

IMG_5648

ตอนนั้นผมเดินออกมาที่นอกอาคารสถานี โอ้โห แสงยามเช้าสวยมาก โคตรชอบเลย ท้องฟ้าเล่นสีสันหลากหลายสี ฉากหน้าเป็นอาคารทรงยุโรป ริมทางเป็นต้นสนภูเขา ผมนึกว่าไปอยู่ยุโรปนะเนี่ย อากาศยิ่งหนาวๆอยู่ ว่าแล้วก็ไปนั่งแท็กซี่เข้าไปยัง Dalat city ครับ เจรจาราคาได้ 50,000 VND ก็บอกเค้าไปว่า ไปที่พักที่ดีๆ แพงไม่ว่าขอแบบดีไว้ก่อน แต่เค้าก็ดูไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยอือออ ขอให้ไปถึงก็พอ ฮ่าๆ

พอไปถึงครับ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่พัก เพราะที่นี่มีที่พักเยอะมาก แค่เห็นพวกเราแบกเป้ เค้าก็กุลีกุจอมาขายห้องพักแล้วครับ มีราคาหลากหลายมาก แล้วแต่จะเลือกใช้บริการตามจำนวนงบในกระเป๋า ผมเดินดูสักพัก ก็เลยแวะที่โรงแรม  Mai Mai Hotel ครับ สภาพห้องโอเคนะ มีหน้าต่าง มองเห็นวิวด้วย เค้าขายที่ 300,000 VND ต่อคืน แต่ผมก็ต่อราคาดูครับว่า ลดลงหน่อยได้ไหม เค้าก็เลยให้ที่ 250,000 VND จริงๆ คนเวียดนามใจดีมากนะครับ เป็นมิตรมาก ตลอดทริปผมหลงรักประเทศนี้ไปเลยแหล่ะ ประทับใจมาก อยากกลับไปอีก

IMG_6300

หลังจากเช็คอินอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็หาอาหารทานกันครับ อาหารเวียดนามอร่อยมาก ตอนแรกผมกังวลเรื่องอาหารนะ เพราะที่เมืองไทย อาหารเวียดนามก็หนีไม่พ้นแหนมเนือง ซึ่งผมก็ไม่ค่อยสันทัดกับการมานั่งกินผักแบบนั้น แต่ที่ไหนได้ พอไปจริงๆ มีเนื้อ ไก่ ปลา ให้เราเลือกสรรกันเต็มที่ ราคาก็ไม่แพงเลยครับ 30,000 VND ขึ้นไป ซึ่งก็ราคาเท่าๆเมืองไทยนั่นแหล่ะ กินอยู่สบาย

IMG_5588

กินเสร็จ ก็มาเช่ามอเตอร์ไซด์ที่โรงแรมนั่นแหล่ะครับ เค้าบอกว่า 100,000 VND ต่อวัน ผมก็ต่อราคาอีกครับ ได้ที่ 80,000 VND ต่อวัน รถที่นี่เติมน้ำมันเองนะครับ จากนั้นผมกซื้อแผนที่เที่ยวในโรงแรมครับ ราคา 10,000 VND คือแบบว่าประเทศนี้แผนที่ก็มีแต่ภาษาเวียดนาม ไม่เป็นไร ดูชื่อเอากับรูป เดี๋ยวค่อยคลำทางไป ว่าแล้วก็แว๊นมอเตอร์ไซด์ไปเที่ยวกันเลยครับ

IMG_5709

ที่ดาลัดจะมีทะเลสาบกว้างใหญ่มาก น้ำก็ใสดี ควรใช้เวลายามเย็นหรือยามเช้าที่นี่ให้เต็มที่ครับ เอ็นจอยกับธรรมชาติไป หลังจากถายภาพเสร็จแล้วผมก็ขับมอไซด์ไปต่อที่สวนดอกไม้ครับ โดยส่วนตัวผมชอบสวนดอกไม้ที่นี่มากกว่าที่สิงคโปร์อีกนะครับ มันดูสวยและไม่เฟค ราคาเข้าชมก็ไม่แพงหูฉี่เหมือนสิงคโปร์ด้วย ราคาน่าจะประมาณ 20,000 VND ครับ

IMG_5747

ที่นี่มีดอกไม้หลากหลายสีสันมาก ชอบเลย ชอบทุกอย่าง! เป็นทริปที่ไม่คาดหวัง แต่ก็ชอบจนไม่รู้จะพรรณาอย่างไร ฮ่าๆ คือผมคิดว่าผมไปอยู่ยุโรปจริงๆนะ อากาศก็เย็นๆสบายตัวครับ เที่ยวดูต้นไม้ ดอกไม้ไป

IMG_5773

สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปนะ เชื่อเลยว่าคุณต้องหลงรักที่นี่แน่ๆ เพราะเค้าจัดดอกไม้ได้หลากสี และมีมุมน่าถ่ายรูปเต็มไปหมด การได้ออกเดินทางมันก็สอนอะไรหลายๆอยางนะครับ อย่างเช่นทริปนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่า บางครั้งการเดินทางแบบไม่คาดหวัง เราก็มักจะได้ประสบการณ์เกินความคาดหมาย

IMG_5848

ที่นี่ถ้าเรามาตรงกับช่วงดอกไม้สีขาวบาน ผมว่าคงไม่ต่างอะไรจากเทศกาลชมซากุระที่ญี่ปุ่น ตอนที่ผมไปมันเริ่มร่วงกันแล้วครับ แต่ก็ยังสวยนะ ต้นไม้ที่มีดอกสีขาว ยาวตลอดแนวฝั่งถนน โรแมนติกมาก ฮ่าๆ

IMG_5861

อิ่มหนำกับการดูดอกไม้แล้ว จากนั้นไปยังจุดท่องเที่ยวถัดไปครับ เป็นวัดและน้ำตก จริงๆตรงนี้มีกระเช้าด้วยนะครับ แต่ผมเห็นแล้วรุ้สึกว่าไม่ฟิน เลยข้ามไป แต่ใครยังไม่เคยนั่งกระเช้าจะลองมานั่งดูก็ได้นะ แต่ผมเคยนั่งที่เมืองจีนและสิงคโปร์แล้ว ก็เลยไปทำกิจกรรมอย่างอื่นดีกว่า

IMG_5894

ผมไม่แน่ใจว่าคนเวียดนามเค้านับถือพุทธเหมือนบ้านเราไหม ไม่เห็นมีพระเลยครับตามท้องถนน วัดนี้ดูลักษณะแล้วเหมือนของมหายานครับ ชอบวัดนี้มาก เค้าอยู่บนเขา มีเสียงกังวาลของระฆัง (จริงๆเรียกว่าอะไรไม่รุ้ มันเป็นบ้องๆ เหมือนโมบาย พอลมพัดมาก็จะมีตัวที่อยุ่ตรงกลางเคลื่อนไปกระทบ เกิดเสียงดนตรีตามธรรมชาติ ฟังแล้วเกิดความรู้สึกสงบมาก)

IMG_5941

หลังจากเที่ยววัดเสร็จก็ต่อที่น้ำตก Da tan la ครับ บังคับว่าต้องไป เพราะน้ำตกสวย และมีเครื่องเล่นให้เล่นด้วย เป็นรถโรลลิ่ง ไปนั่งเหอะ ไม่กี่บาท ไปเที่ยวอย่าไปเสียดายเงินไม่กี่สิบบาทหรือหลักร้อยสองร้อย ค่าตั๋วเดินทางไปต่างประเทศตั้งแพง จะมามัวตระหนี่กับเรื่องพวกนี้ผมว่าพลาดครับ ฮ่าๆ

IMG_6020

เที่ยวเสร็จ ก็ลัดเลาะกลับเข้าตัวเมืองครับ ไปดูโบสถ์ในเมือง สวยยยยย ชอบอีกแล้ว ฮ่าๆ

IMG_6110

จากนั้นก็ไปต่อที่ Crazy House ไปดูว่ามันเครซี่อย่างไร พอไปถึง อึ้งกิ่มกี่ บ้านที่น่าสนใจที่สุด คิดได้ไง ออกแบบได้หลุดโลก แนะนำว่าต้องไป เพราะมันคุลเวอร์ๆ

IMG_6201

จริงๆบรรยากาศในบ้าน Crazy House มีอะไรมากกว่านี้นะครับ แต่คิดว่าลงภาพเพียงบางส่วนดีกว่า อยากให้ไปเห็นกับตาตัวเอง ผมเชียร์เลยว่าไปถึงแล้วควรไปให้ได้ เพราะมันน่าทึ่งในเชิงสถาปัตยกรรม แถมสามารถเดินเหินปีนป่ายทะลุห้องนั้นห้องนี้ จนไปอยู่บนหลังคาตั้งแต่เมื่อไหร่ กลายเป็นจุดชุมทาวน์วิวไปอีกแบบ ห้ามพลาด

IMG_6436

มาดูวันที่สองของการใช้ชีวิตในดาลัดกันครับ

วันที่สองนั้นผมกับเพื่อนเที่ยวกันแบบชิลๆ เน้นแว๊นมอเตอร์ไซต์ตะลุยนอกเมืองดาลัด โดยตั้งใจว่าจะไปที่น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเวียดนามใต้ พอถามพนักงานที่โรงแรมเค้าก็บอกว่าไกลมาก ราว 20 กิโลเมตร เอ๊ะ ยี่สิบกิโลนี่ไม่ไกลนะ พอไปทานข้าวถามคนขายอาหาร เค้าก็บอกว่าไกลมาก ราวก 30 กิโลเมตร อืม มาตรวัดที่นี่แลดูใกล้เคียงกันมาก ฮ่าๆ แต่ก็ไม่ถือว่าไกลสำหรับพวกผม กินข้าวเสร็จ บิดมอไซด์ไปน้ำตกเลยครับ

IMG_6450

ระยะทางไปถึงน้ำตก โอ้โห ไกลมากกกกก ผมว่าน่าจะ 50 กิโลเมตรได้ แถมเป็นการเดินทางในเวียดนามถนนไม่ได้สะดวกตลอดการเดินทางครับ เพราะมีทั้งขึ้นเขา ลงเขา ทางโค้ง แต่ริมทางก็สวยดีนะครับ

ระหว่างที่เดินทาง มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดครับ! 

ตอนที่อยู่ที่ดาลัด ผมเช่ารถมอเตอร์ไซต์ครับเพื่อไปยังน้ำตกที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเกือบ 50 กิโลเมตร แล้วรู้ไหมครับว่า ขับไปได้ราว 30km. รถมอไซตด์ยางแตก เพราะไปเหยียบโดนอะไรสักอย่าง ตอนนั้นก็ตกใจกันครับ ทำอย่างไรดี? ผมกับเพื่อน (ทริปนี้ไปกันสองคน) เลยแวะเข้าร้านอาหารข้างทาง เค้าก็คุยภาษาอังกฤษไม่เก่งครับ สื่อสารกันสักพัก เค้าบอกว่าร้านซ่อมต้องขับย้อนไปในตัวเมืองประมาณ 2km. แต่สักพักเค้าเห็นพวกเราทำหน้างงๆ คือจะหาเจอไหมละ คนประเทศนี้ยิ่งได้ภาษาอังกฤษกันน้อย เค้าเลยทำท่าทางประมาณว่า รอสักครู่ แล้วก็หยิบมือถือมาโทร คุยเสร็จก็บอกพวกเราว่า เดี๋ยวเค้าจะเอารถไปซ่อมให้เอง ให้พวกผมดื่มน้ำดื่มท่ารอละกัน แบบโอ้โห! ซึ้งในน้ำใจมากครับ

IMG_6470

ผ่านไปราวสี่สิบนาที เค้าก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ของพวกเรามาคืน พร้อมกับบอกว่าคงเหยียบโดนตะปู มันรั่วไปสองรูเลย ตอนนี้เค้าให้ร้านเปลี่ยนให้แล้ว ค่าซ่อมและค่ายางใน 50,000 ดอง (ประมาณ 80 บาท) ตอนนั้นได้แต่ขอบคุณๆ เค้าก็บอกว่ายินดี และขอให้สนุกกับการเดินทาง

IMG_6471

นี่แหล่ะครับ น้ำใจของเจ้าบ้านที่ดี ก่อนหน้านี้ผมได้ยินมาว่าระวังนะคนเวียดนามขี้โกง มองเราเห็นเป็นเงินเป็นทองไปหมด แต่ที่ผมเจอมา เกือบร้อยเปอร์เซ็นล้วนเป็นคนดีมีน้ำใจมากครับ

พอไปถึงน้ำตก โอ้โห แห้งแล้งครับ! ฮ่าๆ แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะ เหมือนไปสามพันโบกในเมืองไทย ผมชอบอยู่นะ แต่อากาศก็ร้อนไปหน่อย แนะนำว่าให้ทาครีมกันแดดด้วยก็ดีครับ เพราะเมืองนี้อยู่นอกเขตเมืองดาลัดแล้ว

กลับมายังที่พักผมก็กระหน่ำกินกันจุมากๆ ระยะห่างระหว่างอาหารแต่ละอย่างประมาณ 15 นาทีครับ ก็แหม่ อาหารที่นี่ถูกปากซะขนาดนี้ แม้ผมจะตัวผอมแต่ก็ไม่เคยแพ้เรื่องการกินอยู่แล้ว ไล่ตั้งแต่กินเฝอ กินไก่ย่าง กินเนื้อย่าง หมูย่าง ของหวาน มันเผา ฮ่าๆ

IMG_6788

เช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกไปเดินตลาดครับ ผมชอบเดินตลาดนะ มันได้เห็นวิถีชีวิตของคนจริงๆ ไปดูว่าเค้าซื้ออะไรขายอะไร มันดูมีชีวิตดีครับ ผมได้เห็นผักผลไม้แปลกๆหลายอย่าง เช่นดอกอติโชค ก็เป็นพืชชนิดใหม่ที่ผมเพิ่งเคยได้ยินตอนมาเวียดนามนี่แหล่ะครับ

IMG_6799

ผมออกมาเดินคนเดียวครับ ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ สนุกดี อากาศที่ดาลัดดีจริงๆ ไม่ร้อนเลย เย็นสบายมาก หลงรักเลยครับ

IMG_6845

คนเวียดนามเค้าไม่ได้มีรายได้สูงอะไรเลยนะครับ จากการเฝือกของผม ฮ่าๆ ผมสอบถามหลายๆคนมา ก็เห็นมีรายได้ประมาณสี่ห้าพันต่อเดือนครับ ไม่ถือว่าเยอะเท่าไหร่ แต่พวกเค้าก็ทำมาหาเลี้ยงชีพสุจริตกัน ไม่ค่อยเจอขอทานเหมือนประเทศไทยเท่าไหร่ครับ

IMG_6878

ถ่ายภาพสนุกจริงๆครับ เดินเพลินกันเลยทีเดียว อยากจะให้ทุกท่านได้มาสัมผัสด้วยตัวของตัวเองนะครับ ผมเชื่อว่าคุณจะหลงเสน่ห์เมืองนี้ไม่แพ้ผมหรอก ไปแล้วก็ยังกลับไปอีก เนี่ยระหว่างเขียนอยู่นี้ผมก็ยังอยากกลับไปนะ ฮ่าๆ ชอบจริงๆ

IMG_6903

ถ่ายภาพจนพอประมาณแล้ว ผมต้องรีบออกไปหาข้าวเช้าทานแล้วแหล่ะครับ ผมแวะที่ร้านคุณลุงที่อยู่ใกล้ๆที่พัก คุณลุงท่านอัธยาศัยดีนะครับ ชวนคุย สอนคำศัพท์เกี่ยวกับอาหารให้ด้วย เช่นคำว่า กอม แปลว่า ข้าว กา แปลว่าไก่ ฮิว แปลว่าหมู บอ แปลว่าเนื้อ คุณลุงเคยมาทำงานที่เมืองไทยด้วย เลยพูดไทยได้นิดหน่อย (นิดหน่อยจริงๆ ฮ่าๆ) ร้านอาหารคุณลุงสะอาด และอาหารอร่อยด้วยครับ ผมไปใช้บริการร้านคุณลุงบ่อยเลยแหล่ะตอนที่อยู่ดาลัด

IMG_6905

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ที่ดาลัดแล้วครับ ตอนเที่ยงครึ่งรถทัวร์จะมารับไปที่เมืองมุยเน่ สำหรับตอนต่อไปผมจะพาไปเที่ยวเมืองมุยเน่ครับ ไปดูว่าเมืองนี้มีอะไรดี ที่ผมไปเห็นแล้วโคตรตื่นเต้นไม่แพ้กัน แล้วเจอกันตอนหน้าครับ 🙂

The post ตะลุยเวียดนามตอนที่สอง หนาวนี้ที่ดาลัด appeared first on Backpack Story.

]]>
https://backpackstory.com/%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87.html/feed 1
แบกเป้เที่ยวเวียดนามที่โฮจีมินห์ ดาลัด มุยเน่ วันแรกเที่ยวโฮจีมินห์ https://backpackstory.com/backpack-to-vietnam-hochimihn-dalat-muine.html https://backpackstory.com/backpack-to-vietnam-hochimihn-dalat-muine.html#comments Mon, 31 Mar 2014 07:00:53 +0000 http://backpackstory.com/?p=389 ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เดินทางไปเที่ยวเวียดนามครับ ทริปนี้จริงๆไม่ค่อยรุ้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะเหมือนทริปฆ่าเวลา ไม่มีการคาดหวังหรือการวางแผนใดๆทั้งสิ้น เอาง่ายๆ ทำตัวชิลๆเพราะก็ไม่รู้ว่าสถานที่จะไปมันมีอะไรดี อะไรเด่น

The post แบกเป้เที่ยวเวียดนามที่โฮจีมินห์ ดาลัด มุยเน่ วันแรกเที่ยวโฮจีมินห์ appeared first on Backpack Story.

]]>
ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้เดินทางไปเที่ยวเวียดนามครับ ทริปนี้จริงๆไม่ค่อยรุ้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะเหมือนทริปฆ่าเวลา ไม่มีการคาดหวังหรือการวางแผนใดๆทั้งสิ้น เอาง่ายๆ ทำตัวชิลๆเพราะก็ไม่รู้ว่าสถานที่จะไปมันมีอะไรดี อะไรเด่น

ผมตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำทำธุระ และจัดกระเป๋าเดินทาง แล้วก็ออกเดินทางสุ่สนามบิน เพื่อบินออกนอกประเทศสู่เมืองโฮจีมิน

ผมมาถึงเมืองโฮเวลาประมาณ 10:00 น. แล้วก็ผ่าน ต.ม. เข้าเวียดนามครับ ประเทศนี้เข้าง่ายมาก แค่มีพาสปอร์ตก็เข้าได้แล้วไม่ต้องกรอกอะไรทั้งสิ้น

จากนั้นเมื่อเดินออกจากสนามบิน หันไปทางขวามือจะเห็นรถเมลสาย 152 จอดอยู่ เดินขึ้นไปเลยครับ แล้วก็จ่ายตังค์ค่าตั๋วคนละห้าพันดอง (เรทแลก วันนี้แลกที่สนามบินได้เรทสูงกว่าตอนมาในเมือง)

IMG_5433

โชคดีมีคนไทยเดินทางมาในเครื่องด้วย พวกพี่ๆเค้าจะไปดาลัด ผมก็เลยขอถามเรื่องสถานที่เที่ยว พี่เค้าก็บอกคร่าวๆ จากนั้นก็ลากัน พวกผมเดินทางไปที่ฟามงูเหลา เพื่อซื้อตั๋วแบบครึ่งวันและจองตั๋วไปดาลัด รถจากโฮจีมินห์ไปดาลัด เอเจ่นบอกว่ามีเดินทางทุกชั่วโมง เที่ยวสุดท้ายคือห้าทุ่ม ใช้เวลาเดินทางประมาณ เจ็ดชั่วโมงครับ พวกผมเลยจองเที่ยวห้าทุ่ม จะได้ถึงที่นั่นประมาณ หกโมงเช้า สำหรับค่าทัวร์แบบครึ่งวันคนละ 7US และค่ารถบัสแบบนอน คนละ 13USD (แต่เห็นในตั่วเขียน 230,000 Dong) แต่ผมจ่ายเป็นเงินดองไปครับ คือ 840,000 Dong

IMG_5588

อ้อ ผมแนะนำว่าถ้าไม่มีโปรแกรมอะไรต่อในโฮจีมินห์ ก็ไม่ต้องเอ้อระเหยลอยชายรอเวลาตั้งห้าทุ่มเหมือนผมนะครับ ฮ่าๆ ผมว่าออกเดินทางมาสองทุ่มกำลังเหมาะ

IMG_5461

อาหารที่โฮจีมินห์อร่อยดีนะครับ ส่วนมากก็จะเป้นเฝอ แต่เนื้อก็มีขายนะ จานละสามหมืนถึงร้อยดอง แล้วแต่ชนิดอาหารและประเภทร้านว่าหรุระดับไหน

IMG_5519

เวียดนามหาป้ายภาษาอังกฤษยากมาก ค่อนข้างเปนอุปสรรค แผนที่ก็มีแต่ภาษาเวียดนาม ง๊กเงิกแบ๊กบ๊อกอะไรก็ไม่รู้ แปลไม่ออกเลย ฮ่าๆ

IMG_5561

สำหรับทัวร์ครึ่งวันนั้น เดินทางตอนบ่ายโมงถึงห้าโมงครึ่ง ก็ได้ชม handy craft พระราชวังโฮจีมินห์ ที่ทำการไปรษณีย์ และโบสถ์นอเตรอดัม สวยดีครับ ความอลังการของพระราชวังเค้าไม่ได้เหมือนของไทย แต่เฟอร์ข้างในก็โอเค ส่วนโบสถ์และไปรษณีย์สวยมาก สถาบัตยกรรมน่าสนใจดีครับ

IMG_5583

ต่อจากนี้เป็นโปรแกรมทัวร์ที่ผมสรุปไว้นะครับว่า ตลอดทริป แต่ละวันทำอะไรบ้างเดินทางอยางไร พักที่ไหน เผื่อใครจะเอาไปเป็นไอเดียวางแผนการเดินทางครับ

วันที่ 17 มีนาคม ผมเดินทางถึงสนามบินโฮจีมินห์ตอน  10:00 หลังจากผ่าน ต.ม. แล้ว ให้แลกเงินดอลลาร์เป็นเงินดองไปเลยครับ ตอนผมไปเรทที่สนามบินดีกว่าในตลาดอีกอ่ะ แต่จริงๆก็ต่างกันไม่เยอะหรอก ไม่ต้องแลกไปทั้งหมดนะครับ เพราะค่าโรงแรม ค่าตั๋วจ่ายเป็นเงินดอลจะถูกกว่าจ่ายเป็นเงินดอลลาร์ ผมก็แลกไป 200$ ก่อน (ไปกันสองคน คนละร้อยเหรียญก่อน) แลกเสร็จแล้ว “เดินออกมาจากสนามบินแล้วเลี้ยวขวา” จะเห็นรถเมลสาย 152 จอดรออยู่ ให้ไปใช้บริการได้เลยครับ เพราะเราต้องเข้าไปในตัวเมือง นั่งรถประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะเข้าสู่ตัวเมืองครับ จากนั้นมองทางซ้ายมือไว้ให้ดีๆจะเห็นตึกสูงของ A.I.A ครับ ถึงแถวนั้นแล้วให้เตรียมลงครับ เค้าจะจอดย่านตลาดเบนถัน ก็ลงแล้วเดินเลียบสวนสาธาณะไปเลยครับ คือจะมองเห็นสวนสาธารณะแน่ๆ เดินเลียบไปเลย เดินตรงไปเรื่อยๆ แล้วจะผ่านร้าน Mcdonal (ตอนผมไปเค้ากำลังก่อสร้างอยู่) ถ้าผ่านร้านแมค แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ ก็เดินไปอีก จนเริ่มเห็นทางซ้ายมือมีร้านขายทัวร์เต็มไปหมด นั่นแหล่ะครับ ย่านฟามงูเหลา ผมก็ไปซื้อตั๋วรถสำหรับไปเมืองดาลัดในวันนี้ครับ รถออกตอนห้าทุ่ม จึงมีเวลาเที่ยวในเมืองโฮจีมินหครึ่งวัน ก็เลยซื้อทัวร์จากเอเจ่นต์แบบ half day trip for city tour ครับ ก็ไปเที่ยวกัน แล้วรอขึ้นรถไปดาลัด ใช้เวลาบนรถนอนประมาณ 7 ชั่วโมง

วันที่ 18 มีนาคม  เดินทางถึงดาลัดตอน 5:30 น. ให้หารถไปยัง Dalat City ครับ ไม่ไกลมาก จะนั่งแทกซี่ก็ได้ เพราะเมืองนี้มันหนาว อย่าลืมหาเสื้อกันหนาวไปด้วย ตอนผมไปนั่งแท็กซี่เข้าเมือง 50,000 VND เรื่องราคาก็ต่อรองกันเอาแล้วแต่ความสามารถครับ พอถึงดาลัดซีตี้ ก็จะมีโรงแรม Guesthouse ให้เลือกกันเต็มไปหมด เยอะมาก มีหลายราคา แย่งลูกค้ากันกระหน่ำ ถ้าจะพักที่เดียวกับที่ผมพัก ผมแนะนำ Mai Mai Hotel ครับ ย่านนี้คนไม่พลุกพล่าน จะได้ไม่รำคาญเสียงรถบีบแตร 🙂 ตอนผมไปเค้าขายคืนละ 300,000 VND ผมต่อเหลือ 250,000 VND ครับ ถึงที่พักแล้ว ก็อาบน้ำอาบท่า เตรียมตัวไปเที่ยว

ในดาลัดผมใช้การเที่ยวแบบเช่ามอเตอร์ไซต์ขับครับ นอนที่นี่สองคืน ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์วันละ 100,000 VND แต่ผมตีซี้กับพนักงาน ได้รับส่วนลดเหลือ 80,000 VND ฮ่าๆ วันแรกเที่ยวรอบเมืองดาลัดก่อนครับ เอาทุกจุดไฮไลท์ไปให้ครบ

วันที่ 19 มีนาคม ตื่นมาผมก็เตรียมไปเที่ยวน้ำตกรอบนอกดาลัดครับ อยู่ห่างออกไป 50 กิโลเมตรโดยประมาณ การเดินทางลำบากหน่อย แต่ตอนไปน้ำตกแห้งครับ เพราะเป็นหน้าแล้ง ฮ่าๆ แต่ก็โอเคนะ ได้ประสบการณ์ระหว่างทาง บรรยากาศสวยๆด้วย วันนี้ก็เลยไม่ได้ไปไหนมาก เตร็ดเตร่รอบนอกเมืองดาลัด จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถทัวร์สำหรับไปตะลุยเมืองมุยเน่ ราคา 150,000 VND จริงๆมีถูกกว่านี้แต่ขี้เกียจเดินครับ เพราะมันต่างกันแค่ห้าบาทสิบบาท ยอมครับ

วันที่ 20 มีนาคม ออกเดินทางไปมุยเน่ตอนเที่ยง ตอนเย็นเดินทางถึงมุยเน่ ก็จองห้องพักไว้ครับ ห้องพักอยู่ห่างจากจุดจอดรถป้ายสุดท้ายไม่ไกลเท่าไหร่ครับ อยู่ฝั่งทะเล เดินถามได้เลย ราคาก็ประมาณห้าหกร้อย แล้วแต่สถานที่ ผมจองห้องพักพร้อมกับซื้อทัวร์ครึ่งวันไปเที่ยวทะเลทรายไว้เลย รถจะมารับตอน 4:30 น. ของวันรุ่งขึ้น และซื้อตั๋วรถทัวร์ไปโฮจีมินห์ให้พร้อม

วันที่ 21 มีนาคม ตื่นแต่เช้าไปเที่ยวทะเลทรายขาว ทะเลทรายแดง หมู่บ้านชาวประมง และ Fairy stream ใช้เวลาสี่ชั่วโมง กลับสู่ที่พัก เช็คเอาท์ นั่งรถทัวร์ไปโฮจีมินห์ตอนบ่ายโมงครึ่ง ถึงที่หมายประมาณหนึ่งทุ่ม ระยะทางไม่ไกล แต่เค้าขับช้า นอนไปเลยครับ  พอไปถึงก็เดินไปหาที่พักย่านฟามงูเหลา มีให้เลือกเยอะครับ ผมนอนโรงแรมคืนละ $15 คืนนี้เดินเที่ยวตลาดยามกลางคืนในตัวเมือง สวยครับ ไปที่ตลาดเบนถัน และไปดูการแสดงในสวนสาธารณะ

วันที่ 22 มีนาคม เที่ยวอุโมงค์ Cu Chi แบบครึ่งวันครับ เสร็จประมาณหกโมงครึ่ง มาถึงที่พักราวทุ่มครึ่ง ก็เช็คเอาท์โรงแรม (ผมใช้บริการแบบเช็คเอาท์เลทเค้าคิดเพิ่ม เป็นรวมแล้ว จ่าย $20 ครับ) แล้วก็อาบน้ำอาบท่านั่งแท็กซี่ไปสนามบิน กลับประเทศไทย

The post แบกเป้เที่ยวเวียดนามที่โฮจีมินห์ ดาลัด มุยเน่ วันแรกเที่ยวโฮจีมินห์ appeared first on Backpack Story.

]]>
https://backpackstory.com/backpack-to-vietnam-hochimihn-dalat-muine.html/feed 9