แบกเป้เที่ยวจางเจี๋ยเจี้ย ตอนที่ 2

September 14, 2013
Scroll Down

บทความตอนนี้ต่อจากตอนที่แล้ว คือตัวนี้นะครับ ประสบการณ์สุดประทับใจในเมืองจีน อู่ฮั่น-จางเจี๋ยเจี่ย-ฉางเตอ สามารถคลิกไปอ่านกันก่อนได้ครับ เพื่อความต่อเนื่อง อิอิ

หลังจากที่เราเดินทางผ่านป่าดงพงไพร และดื่มด่ำกับความสวยงามตลอดทางแล้ว ผมกับเพื่อนก็พบปะกับคุณป้าที่มาขายโรงแรมในระหว่างทางครับ จริงๆอย่าเรียกว่าคุณป้าเลยครับ เพราะมาทราบทีหลังว่าคุณป้าท่านอายุ 69 ปีแล้วครับ แต่แม่เจ้าโว้ย คุณป้าร่างกายแข็งแรงกว่าอายุอีกครับ อาอี่ของเราก็มาสาละวนนำเสนอห้องพักของอาอี่เองว่า ราคาถูกนะ ถ้าเป็นนักศึกษาด้วย จะได้ลดครึ่งราคา แต่แหม่ว์ พวกผมแต่ละคน ก็อายุอีกไม่กี่ปีก็สามสิบแล้วค้าบ แต่แปลกใจจริง ไปเมืองจีนครั้งนี้ ส่วนใหญ่คิดว่าผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งนั้นเลย นี่คือหน้าผมยังเด็ก หรือนักศึกษาที่นั่นหน้าแก่กันแน่ ฮ่าๆ

IMG_7515

อย่างที่ผมเคยบอกไปแลวครับว่า เราใช้เวลาเดินไปยังจุดขึ้นเขาด้วยลิฟต์แก้ว ใช้เวลาสี่ชั่วโมง แต่มันไม่เหนื่อยเลยครับ เพราะธรรมชาติรอบตัวสวยงามมาก เห็นแล้วชื่นอกชื่นใจ ผมภูมิใจกับคนจีนนะ ที่เค้ายังรักษาความเป็นธรรมชาติได้ดีขนาดนี้ ผมไปถึงทั้งทีก็ขอดื่มด่ำให้เต็มที่ สูดเอาอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดครับ

IMG_7882

สำหรับลิฟต์ที่ขึ้นไปยังภูเขาด้านบนก็ต้องเสียตังค์เพิ่มนะครับ อ้อ ผมได้อ่านข้อมูลทัวร์จีนมา เค้าบอกว่า อุทยานจางเจี๋ยเจี้ย คืออุทยานที่ค่าเข้าแพงเป็นอันดับสามของจีนเลยนะครับ ฮ่าๆ แต่บัตร 245 หยวนนี่เราสามารถใช้ได้สามวันครับ ข้างในมีบริการรถรับส่งฟรี ยกเว้นแค่พวกขึ้นลิฟต์ขึ้นกระเช้าที่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มครับ  ค่าขึ้นลิฟต์คนละ 67 หยวนครับ

พอขึ้นไปถึงแล้วก็ต้องร้อง “ว้าว” กันอีกรอบ เพราะสวยงามสมคำร่ำลืมจริงๆ มองเห็นวิวทิวทัศน์ในระดับท็อปวิว ช่วงที่ผมไปนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะครับ ทำให้ไม่ต้องตาลีตาเหลือกแย่งกันกันถ่ายรูป หรือเบียดเสียดกันเท่าไหร่ ผมมาอยู่เมืองจีนกลับรู้สึกว่าคนจีนที่นี่ไม่ค่อยจะเหมือนทัวร์จีนที่ไปไทยเท่าไหร่ คนที่นี่ก็ดูสงบเสงี่ยมดีนะครับ ผิดกับทัวร์จีนมาไทย ทำไมเอะอะโวยวายเหลือเกิน จำได้ว่าวันที่ขึ้นเครื่องไปจีน ทั้งลำมีแต่คนจีน พี่ท่านเล่นตะโกนคุยกัน เดินคุยกันบนเครื่อง จนแอร์บอกว่า นี่เครื่องบินนะ ไม่ใช่รถเมล์ กลับไปนั่งประจำที่กันหน่อยค่า ฮ่าๆ

IMG_8114

ภูเขาที่นี่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกเรื่อง AVATAR ครับ และแน่นอนเมื่อไปเห็นแล้วก็ร้องว้าว นี่มันฉากในหนังอวตารชัดๆ ถ่ายรูปกันให้เต็มสตรีม กดรัวกันไม่หยุดครับ ภูเขาสูงมาก มองลงไปแล้วก็เสียว

จริงๆแล้วอุทยานแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก ถ้าจะเอาเที่ยวแบบดื่มด่ำกันผมว่าใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4-5 วันครับ เพราะบางจุดอยู่ห่างกันมาก ต้องนั่งรถบัสที่มีบริการฟรีข้างบนนี้อีกครับ เค้ามีแผนที่ขายด้วยนะครับ แผ่นละ 5 หยวน พอเปิดแผนที่แค่นั้นแหล่ะครับ จุดท่องเที่ยวพรึ่บไปทั้งหน้ากระดาษ ผมเองก็ไม่ได้ไปครบทุกที่หรอกครับ แต่เท่าที่ได้เห็นได้สัมผัส ก็ทำเอาผมละเมอเพ้อพกไปได้อีกเป็นเดือนๆแน่ๆเลย ฮ่าๆ

IMG_8365

จำอาอี่ได้ไหมครับ? อาอี่ที่มาขายห้องพักนั่นแหล่ะครับ พวกผมตกลงไปใช้บริการของอาอี่ อาอี่มีห้องพักบริการคืนละ 80 หยวนครับ ก็ไม่แพงเนาะ แต่ว่าอากาศหนาวมาก ในห้องก็มีฮีทเตอร์ แต่เปิดไม่ได้ ถ้าต้องการใช้จ่ายอีก 40 หยวนนะครับ แหม่ว์ อาอี่ ร้ายนะเนี่ย ฮ่าๆ แต่ก็เนาะ การตลาดบ้านเค้า สำหรับผมผมไม่ได้จ่ายครับ เพราะคิดว่าผ้าห่มก็น่าจะเพียงพอ นอนกกกันสองคนใช้ความอุ่นจากร่างกายของหนุ่มน้อยสองคนทดแทนไป …อันนี้ล้อเล่นนะครับ แหม่ว์ ฮ่าๆ อย่าจิ้นไปไกลนะค้าบ

วันรุ่งขึ้น อาอี่ขอเสนอตัวเป็นไกด์พาเที่ยวครับ คิดวันละ 50 หยวน ผมก็โอเค มีอาอี่ไปด้วย อย่างน้อยท่านก็เป็นคนพื้นที่ น่าจะเชี่ยวเส้นทางดีกว่าพวกผมสองคน อาอี่เก่งมาก ไม่เหนื่อยเลย เดินไปทุกจุด อธิบายจุดเส้นทาง แต่ผมฟังไม่ออกสักคำ ฮ่าๆ เพื่อนผมก็แปลให้ฟังบ้างเป็นบางโอกาส มันเองก็บอกว่า อาอี่เล่าประวัติของเขาแต่ละอัน ครั้นมันจะแปลเป็นอังกฤษ มันก็ไม่เก่งพอ ผมก็เลยช่างมันเถอะ เอิ้กๆๆ

IMG_8385

อาอี่ท่านเป็นคนคุยสนุกครับ ดูจากการพูดคุยนะ ส่วนพูดอะไร อย่าได้ถาม ผมไม่รู้เรื่อง ผมใช้เวลาเที่ยวที่อุทยานจางเจี๋ยเจี้ยอยู่สามวันเต็มๆครับ อิ่มเอมเปรมปรีดิ์มากๆ ทริปนี้มีแต่ภูเขา  แม่น้ำ ป่าไม้ บางจุดก็เจอนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ผมก็ชวนคุย ทุกคนต่างก็พูดประมาณว่า มัน Amazing มาก จริงครับ โคตรอเมซิ่งเลยแหล่ะ ภูเขาเล่นตั้งเป็นแท่งๆแบบนี้ ในยามที่ฝนตกนะครับ ก็จะมีเมฆลอย หมอกลอย สวยไปอีกแบบ

IMG_8411

นอกจากจะมีแค่ภูผา ป่าเขา ลำเนาไพร แล้ว ก็ยังมีหอคอยด้วยครับ เป็นอาคารให้เราขึ้นชมวิวทิวทัศน์ได้ มีหลายชั้นมากๆ โดยส่วนตัวผมชอบชั้นนี้ครับ เป็นห้องจารึกอักษร ผมมองว่ามันเป็นเสน่ห์ดี อยากเขียนภาษาจีนได้ แต่เห็นจำนวนสโตรกแล้ว บ้ายบาย ณ เวลานี้ เยอะเกิิ๊นนน!!

IMG_8430

หลังจากนั้นก็ได้เวลากลับเข้าไปยังตัวเมืองครับ อาอี่น่ารักมากและใจดีมาก ท่านช่วยขนกระเป๋า พาขึ้นรถบัสเข้าไปยังตัวเมือง ไปส่งถึงที่เลยครับ จริงๆไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ แต่อาอี่บอกว่า ท่านประทับใจพวกผม ยิ่งตอนที่ท่านมาชวนคุย แล้วผมนั่งอยู่ ผมก็เสียสละที่นั่งให้อาอี่นั่ง อาอี่บอกว่าประทับใจมาก (อันนี้เพื่อนเล่าให้ฟังนะครับ) อย่างตอนทานข้าวบ้านอาอี่ อาอี่ก็มีอาหารจานพิเศษแถมให้ด้วย คิดเสียว่าเป็นน้ำใจจากอาอี่ก็แล้วกัน ก่อนจะไปถึงจุดขึ้นรถบัสเข้าตัวเมือง เราก็ต้องนั่งกระเช้าลงไปที่ตีนเขาครับ ค่านั่งกระเช้าอีก คนละ 72 หยวนครับ แหม่ ทุกสิ่งอย่างต้องจ่ายตลอดเลยนะขอรับ

IMG_8440

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมจะได้นั่งกระเช้าครับ ผมตื่นเต้นมากๆ เพื่อนผมบอกว่า มันชอบเวลาที่เห็นผมตื่นเต้น เพราะทำให้การเดินทางครั้งนี้ดูสนุก ก็แหม่ว์ บ้านผมไม่มีแบบนี้นี่นา ศรีสะเกษบ้านเกิดผมไม่มีแม่น้ำ ไม่มีป่าไม้ ไม่มีภูเขา นานๆจะได้มาเห็นแบบอลังการแบบนี้ผมก็ย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดาแหล่ะครับ ก็ลองเพื่อนผมมาเห็นทะเลใต้บ้านเราบ้างสิ รับรองว่าออกอาการไม่แพ้ผมหรอก ฮ่าๆ

IMG_8483

พอไปถึงที่ตัวเมืองจางเจี๋ยเจี้ย เราก็รอพบกับเพื่อนของเพื่อนอีกสองคนครับ ทำให้วันต่อไปก็จะเป็นสี่หนุ่มเที่ยวด้วยกันแล้วนะครับ เพื่อนของเพื่อนผมมาถึงที่ตัวเมืองก่อน ก็ทำการจองโรงแรมให้เรียบร้อย พร้อมกับซื้อตั๋วชมการแสดงแสงสีเสียงที่จางเจี๋ยเจี้ยครับ ค่าตั๋วเห็นเพื่อนบอกว่าจริงๆแพงกว่านี้ แต่เพื่อนของเพื่อนเป็นพวกมีบัตรมีคอนเน็คชั่นเยอะอะไรทำนองนี้แหล่ะครับ เลยได้รับส่วนลด ราคาต่อใบก็จ่ายที่ประมาณ 238 หยวนครับ เป็นที่นั่งวีไอพี

IMG_8489

ประเทศจีนเป็นประเทศที่ทำอะไรเวอร์ได้ตลอดครับ การแสดงนี้ก็เช่นเดียวกัน เล่นเอาภูเขาทั้งลูกเป็นฉากในการแสดงครับ มีลูกเล่นอลังการงานสร้างมาก ผมอ่านมาเค้าเขียนไว้ว่าใช้งบทุ่มทุนถึง 130 ล้านหยวน มีนักแสดงมากกว่า 500 ชีวิต กำกับการแสดงโดยจางอี้โหม่ว (ดีกรีเป็นถึงคนกำกับการแสดงประกอบพิธีเปิดในโอลิมปิก 2008) เพลงประกอบการแสดงก็เป็นเพลงร่วมสมัยมาก เรื่องราวก็ดีมากครับ เป็นเรื่องของหนุ่มน้อยที่ตกหลุมรักกับจิ้งจอกสาว แต่ความรักต่างเผ่าพันธุ์ก็มีิอุปสรรค ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกันแค่ปีละครั้งเท่านั้น ฉากแต่ละฉากเรียกเสียงฮือฮาได้ตลอดเลยครับ ยิ่งฉากจบ โอ้วโห เค้าลอยไปบนฟ้าเลยค้าบ

สำหรับตอนที่สอง ผมขอจบการเล่าเรื่องที่การแสดงแสงสีเสียงนะครับ แต่ว่ายังไม่จบทริป เพราะพรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปยังอุทยานเทียนเหมินซาน หนึ่งในสี่ของภูเขาที่สวยที่สุดของจีน ความสนุกที่สุดยอดไม่แพ้กันกำลังรออยู่ ได้โปรดติดตามชมตอนต่อไปนะค้าบ

EN / FR

© Copyright BackpackStory.com.

Close