เที่ยวตราด เมืองห้ามพลาด สวรรค์ใกล้กรุง!

December 20, 2014
Scroll Down

สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน กว่าผมจะเริ่มเขียนเล่าเรื่องการเดินทางในจังหวัดตราดที่ผ่านมานี้ผมก็รวบรวมสติอยู่พอสมควร เพราะได้รับความสุข ความสนุกแบบล้นหลามมาก ไม่นึกไม่ฝันว่าจังหวัดที่ห่างจากเมืองกรุงเทพ แค่ 300 กว่ากิโลเมตร จะมีทัศนียภาพที่สวยงามได้มากขนาดนี้

IMG_7094-t

ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ผมไปเที่ยวในฐานะ “ถูกเชิญ” ไป ซึ่งก็คือผมได้รับการติดต่อจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดตราด ครับ ติดต่อให้ผมไปเที่ยวจังหวัดตราดในฐานะบล็อกเกอร์ เที่ยวฟรี อยู่ฟรี กินฟรี ผมเองก็ไม่เคยไปเที่ยวแบบมีคนชวนสักที เลยถือโอกาสว่าไปลองเที่ยวดูหน่อย ดูซิว่าจังหวัดนี้มันจะมีอะไรให้เอามาเมาท์มาอวดเพื่อนๆได้บ้าง

ก่อนที่ผมจะไป ผมเองก็รู้สึกอึดอัดนะครับ ปกติเวลารีวิวก็จะรีวิวเล่าเรื่องราวไปตามที่เจอ อันไหนชอบก็บอกว่าชอบ อันไหนคิดว่าไม่ใช่ก็บอกว่าไม่ใช่ ฮ่าๆ ผมอวยอะไรไม่ค่อยเป็น ทริปนี้ผมก็แอบคิดว่าไปแล้วกลับมาตูต้องอวยทุกสิ่งอย่างหรือเปล่าวะเนี่ย ถ้าให้อวยทุกสิ่งอย่าง คงไม่ไป เพราะดูขัดกับความรู้สึก และก็โชคดีที่ทาง ททท. บอกว่าเต็มที่เป็นสไตล์ของตัวเองโล้ด ดังนั้นผมจึงมา “จัดเต็ม

การเดินทาง ที่พัก อาหาร สำหรับทริปนี้ ททท. ได้รับการสนับสนุนจากโรงแรมบ้างอะไรบ้าง ก็เล่าๆไปนะครับ

เริ่มต้นการเดินทางกันดีกว่าครับ เจ้าหน้าที่ของ ททท. ส่งเมลมาให้ผมเป็นรหัสตั๋วสำหรับไปเช็คอินเพื่อบินไปตราด ผมก็ผงะ ห๊ะ ตราดเนี่ยนะมีสนามบินด้วยหรือวะ? ไม่ยักจะรู้ ปรากฎว่าเป็นของสายการบิน “Bangkok Airways” ครับ สายการบินเจ้าเดียวที่บินไปจังหวัดนี้ เหมือนว่าสนามบินตราดก็มีแค่เจ้านี้แหล่ะครับที่บริการอยู่

ผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะกลัวรถจะติด ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน และสายการบิน Bangkok Airways เนี่ยก็ไม่เคยนั่งหรอกครับ เพราะบ้านผมไกลจากสุวรรณภูมิ ปกติบินไปไหนก็อาศัยหางแดงหางเหลือง แต่ผมก็รู้มาว่าBangkok Airways เค้ามีห้องรับรองผู้โดยสาร และมีข้าวต้มมัดขึ้นชื่อ ผมก็เลยถือโอกาสไปลองซะหน่อย

ห้องรับรองของ Bangkok Airways อยู่ติดๆกับของการบินไทยครับ ข้าวต้มมัดมีให้กินกันจนท้องแตก มีอาหารอย่างอื่นด้วย เครื่องดื่มก็พร้อม ผมเลยฝากท้องไว้ที่ห้องรับรองซะเลย กินข้าวต้มไปเป็นสิบๆมัด อิ่มซะ

จากนั้นก็เดินไปรอที่หน้าเกตครับ เพื่อขึ้นรถบัสไปยังเครื่องบิน พอเห็นเครื่องบิน โอ้ะพระเจ้า ทำไมมันเล็กจัง เป็นเครื่องบินใบพัดขนาด 70 ที่นั่ง เห็นแล้วหวาดเสียวมาก บอกตามตรง เกิดมาไม่เคยนั่งเครื่องบินแบบนี้ มันจะปลอดภัยไม๊? ถามตัวเองเบาๆ

IMG_6982

คนมาใช้บริการกันเกือบเต็มลำเลยนะครับ ผมนั่งไปก็เสียวไป มันเล็กมากจริงๆ โชคดีที่ตลอดการบินไปตราดไม่มีการเหวี่ยง ไม่งั้นคงใจแป๊ว ฮ่าๆ บนเครื่องบินก็จะมีแอร์สาวสวยมาบริการอาหารให้เราด้วยนะครับ เป็นเส้นบะหมี่คล้ายสปาเกตตีครับ พูดตามตรงจากความรู้สึกของผมคือ ผมว่ามันจืดอ่ะครับ เย็นมาก เหมือนเอามาจากช่องแช่แข็ง ผมชอบอาหารที่ห้องรับรองมากกว่า อันนั้นเอาไปเลย สิบ สิบ สิบ!!

ใช้เวลาประมาณ 50  นาที เครื่องบินลำน้อยตัวนี้ก็พาผมไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับ ขอบคุณพ่อแก้วแม่แก้ว ฮ่าๆ จริงๆมันก็ปลอดภัยแหละครับ แค่ไม่เคยบินเครื่องบิน 70 ที่นั่งแบบนี้มาก่อน มันก็อดเสียวไม่ได้

สนามบินตราดน่ารักครับ เล็กมาก รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี วันนี้ ททท. ตราด จะเอารถตู้มารับและไปส่งที่ท่าเรือเพื่อไปยังเกาะหมาก วู้ว ไม่เคยไปเลยเกาะหมากเนี่ย ตื่นเต้นจริงๆ

พอถึงท่าเรือเราก็นั่งเรือสปีดโบ้ทไปกันครับ ค่าเรือ 450 บาท ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ไปถึงเกาะหมากแล้ว

แค่ถึงท่าเรือ ผมก็ตะลึงตึงโป๊ะกับความใสของน้ำทะเลที่เกาะหมากแล้วครับ มันใสมาก สวยมาก ตื่นเต้นๆ

IMG_7014

ถึงเกาะหมากปุ๊บ ก็มีรถมารับปั๊บ ต้องนับถือ ททท. ที่วางแผนเวลาได้ดีเยี่ยมทั้งทริป รถพาเรามาส่งยังที่พักสำหรับคืนแรก ผู้ชายนอนที่เกาะหมากรีสอร์ท ส่วนผู้หญิงพักที่ Seavana Resort ครับ เป็นรีสอร์ทติดๆกัน คนทำก็ญาติกันนันแหล่ะครับ ที่ Seavana จะดูไฮโซโก้เก๋กว่า เกาะหมากรีสอร์ท ผมไม่ได้เข้าไปดูใน Seavana เลยไม่รู้วาในห้องเป็นอย่างไร แต่ในเกาะหมากรีสอร์ทก็มาตรฐานห้องพักทั่วไปครับ ทีวี น้ำอุ่น แอร์ แต่ทีเด็ดคือมันติดหาดเลย และน้ำก็ใสสวย น่าเล่น

บรรยากาศในเกาะหมากรีสอร์ท
บรรยากาศในเกาะหมากรีสอร์ท

แต่ยังก่อน ยังเล่นน้ำไม่ได้ ตามแพลนเราต้องตระเวนรอบเกาะหมากเลยครับ และก่อนตระเวนเราก็ต้องมาทานข้าวเติมพลังชีวิตกันก่อน ก็ตรงร้านอาหารของรีสอร์ทนั่นแหล่ะครับ อาหารอร่อยมาก เสียอย่างเดียว …แมลงวันครับ ผมว่าแมลงวันมีเยอะเกินรับได้ไปหน่อย กินไปปัดไป เลยรู้สึกว่าจะอะไรหนักหนาครับแมลงวันครับ ฮ่าๆ ถ้าทางรีสอร์ทจัดการปัญหาตรงนี้ได้จะดีมากๆเลย ฝากดูด้วยนะครับผม

IMG_7053

กินอิ่ม เรายิ้มได้ พวกเราบรรดาบล็อกเกอร์พร้อมแล้ว!!

จุดแรกที่ไปเยือนก็คือจุดชมวิวที่มีชื่อเรียกเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ครับ “ไทดาโฮ” บ๊ะ ใครกันช่างตั้งชื่อ ไหนไปดูซิว่าวิวที่ว่ามันเป็นไง และมันก็เป็นงี้ครับ ตามรูปนั่นแหล่ะครับ

IMG_7108

โอ้แม่เจ้า!! มันสวยมาก สวยแบบไม่ต้องอวย เพราะสวยจริงอะไรจริง ใครกันช่างคิดได้ สร้างสะพานทอดไปยังทะเลแบบนั้น สีน้ำทะเลฟ้าใส มีเรือใบวิ่งด้วย ชอบมากเลยครับ ใครมาเที่ยวเกาะหมาก แนะนำให้มาชมวิวที่จุดนี้ จำชื่อมันไว้นะครับ “ไทดาโฮ

IMG_7098

ผมจำไม่ได้ว่าเกาะข้างหน้าที่มองเห็นมันเรียกว่าเกาะอะไร ก็แหม่ จังหวัดนี้สมกับเป็นจังหวัด “เกาะครึ่งร้อย” จริงๆ เกาะเยอะแยะมาก จำไม่ไหวครับ ฮ่าๆ

IMG_7137

พี่ที่ไปด้วยอีกคนเอาโดรนไปเก็บภาพมุมสูงด้วย อลังการเวอร์ พี่ท่านได้ตัดต่อลง youtube เรียบร้อยแล้วด้วย เชิญไปร่วมทัศนาถึงความสวยงามได้ครับผม

เสร็จจากดื่มด่ำกับวิวแล้ว จุดต่อไป ททท. บอกว่า มาเกาะหมากก็น่าจะรู้เกี่ยวกับเกาะหมากบ้างอะไรบ้าง ว่ามีความเป็นมาอย่างไร จึงพาพวกเราไปยัง “พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก” ครับ ที่นี่เป็นบ้านเก่าอายุเกือบร้อยปีที่ถูกดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาของชุมชนในเกาะหมาก มีคุณลุงเอก เป็นผู้มาบรรยายให้ฟังครับ ฟังแล้วจับใจความได้ว่า “ชาวเกาะหมากสวยและรวยมากกกก” เห้ย ไม่ใช่แระ ฮ่าๆ

IMG_7014

ชาวเกาะหมากนั้นดั้งเดิมอพยพมาจากเกาะกงครับ แต่ช่วงนั้นที่มีการล่าอาณานิคม วันดีคืนดีชาวเกาะกงที่ได้ชื่อว่าเป็นชาวสยาม หลับไปอยู่ดีๆพอตื่นขึ้นมาก็เอ้า กลายเป็นคนเขมรไปแล้ว อ้ากกก ก็พากันรับไม่ได้ ไม่นะ อยู่ๆจะให้ไปเป็นคนสัญชาติอื่นเรารับไม่ได้!! บรรพบุรุษของคุณลุงเอกนี่แหล่ะคับ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองในเกาะกงก็เลยออกสำรวจว่าในบรรดาเกาะร่วมครึ่งร้อยในย่านตราดเนี่ย มีเกาะไหนที่น่าเข้าไปอยู่ โดยส่งซินแสไปดูทำเลด้วย ซินแสก็บอกว่า มาเกาะหมากสิ รูปร่างเหมือนมันกรตามตำราจีน (ผมดูเหมือนปลาดาวมากกว่า ฮ่าๆ) มาอยู่แล้วจะมีแต่เจริญยิ่งขึ้น บรรพบุรุษคุณลุงเอกก็เลยนำชาวบ้านและทาสในเรือนของตัวเองมาที่เกาะหมาก จำนวนคนครั้งนั้นก็เป็นพันครับ (จำนวนทาสก็พันห้าแล้ว…บอกแล้วคนเกาะหมากรวย ฮ่าๆ)

ทีนี้คุณลุงเอกก็เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับการต่อร่วมต่อสู้ป้องกันเอกราชของประเทศไทย โดยเกาะหมากก็เป็นหนึ่งในจุดที่ผู้คนมีส่วนร่วมในการปกป้องดินแดนครับ คุณลุงเล่าด้วยใบหน้าที่มุ่งมั่น เล่าสนุก ตลกด้วย ถ้าหากมีเวลาบนเกาะหมาก นอกจากจะดีด๊ากับการเล่นน้ำทะเล ก็แวะมา “พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก” ได้นะครับ

เมาท์มอยกับคุณลุงเอกเรื่องพิพิธภัณฑ์แล้ว คุณลุงเอกยังพาไปดูการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยครับ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใช้ไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ 100% เป๊ะเวอร์! ประเทศไทยมันเมืองร้อน แดดเปรี้ยงอย่างกะเตาอบ ควรทำมากๆครับไอ้การใช้โซลาร์เซลล์เนี่ย

ต่อมาเป็นจุดสุดท้ายของการเที่ยวเกาะหมาก คือไปยัง Cinnamon Art Spa and Resort ครับ ที่นี่มีอะไรชูโรงเหรอ?

อ๋อ เค้าเป็นผู้สนับสนุนเราด้วยไง! ครัช บัยส์ๆ ฮ่าๆ

IMG_7166-t

ทีรีสอร์ทนี้เค้าสร้างสะพานไม้ที่ “ยาวที่สุดบนเกาะหมาก” ไว้ด้วยครับ สะพานที่ทอดตัวยาว 500 เมตร ไปยังท้องทะเล ที่น้ำทะเลใสแจ๋วแว๋ว (เสียอย่างเดียวหาดทรายมันไม่ได้ขาวจั๊วะเหมือนทะเลใต้ ถ้าขาวแบบเกาะพีพี หลีเป๊ะ หุย สวรรค์กว่านี้แน่ๆ แต่แค่ที่มีก็ดื่มด่ำได้แล้ว) นอกจากนี้ ทีเด็ดก็คือ ไม่จำเป็นต้องเป็นแขกเค้าเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์มาอวดร่างหวยระหงษ์องเอวที่นี่ เพราะใครก็ได้ สามารถมาชมวิว เดินเล่นบนสะพาน ถ่ายเซลฟี่ ถ่ายวิวได้เลยครับ เค้าไม่หวง แต่ถ้าอยากจะพักก็พักได้นะครับ คืนเริ่มต้นละ 2,900 บาท (จริงๆที่พักบนเกาะหมากก็เรทๆประมาณนี้ครับ ราคาสูงหน่อยเพราะเกาะมันเล็ก)

Cinnamon Art Spa and Resort มีการจัดตกแต่งห้องได้โมเดิร์นดีครับ จริงๆทุกรีสอร์ทที่เราแวะ เค้าก็จัดได้มีรสนิยมสมราคาอยู่ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งบรรยากาศทางทะเลให้มีอะไรน่าสนใจเพิ่ม เช่น “เอาเรือมาล่ม” ไว้ใกล้ๆฝั่ง

IMG_7192

ด้านบนเป็นภาพบรรยากาศของรีสอร์นี้ครับ

IMG_7253

เนื่องจากสถานที่นี่เป็นจุดสุดท้าย เราจึงอยู่จนกันเย็น เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดิน สะพานไม้นี้ชวนให้ผมนึกถึงสะพานอูเบ็งที่พม่ามากเลยครับ ดูน้ำสิครับ ใสมาก เสียแค่ที่ว่าทรายมันไม่ขาวแค่นั้นเอง ฮ่าๆ

IMG_7273-t

พอเย็นๆมาหน่อย ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวมามากขึ้น แต่ก็ไม่พลุกพล่านนะครับ เป็นเกาะที่สงบมากๆ สงบจนไม่มีหมอมาประจำที่เกาะนี้ครับ อยู่เกาะนี้ห้ามป่วย ห้ามตาย มันลำบาก ฮ่าๆ (เรื่องจริงนะครับ คุณลุงเอกบอกว่า เกาะนี้ไม่มีหมอมาประจำ เพราะจำนวนคนอยู่บนเกาะตามสัมมะโนครัวจริงๆแค่ 700 คน ที่เหลือก็มีแต่นักท่องเที่ยวขาจร รัฐบาลเลยไม่จัดสรรหมอให้มาอยู่ที่นี่ ถ้าเจ็บป่วยจะเป็นจะตายมาก็ต้องนั่งสปีดโบ้ทเข้าตัวแผ่นดินใหญ่อย่างเดียว)

IMG_7267

ทริปนี้เป็นทริปที่มีแต่บล็อกเกอร์ครับ พวกเราหกคนก็ถ่ายภาพกันสนุกสนาน เป็นทริปที่ผมชอบมาก เพราะมีโอกาสโผล่หน้าบนภาพถ่ายบ้างอะไรบ้าง อิอิ

IMG_7275-t

ถ่ายรูปไปเรื่อยๆครับ ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกดิน วันนั้นแอบคนคู่รักเดินจูงมือกันเป็นคู่ โรแมนติกชิบเป๋ง เมื่อไหร่จะมีโมเมนต์แบบนั้นกับเค้าบ้างวะ (บักสนคิดในใจ)

IMG_7352

พอพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปทานข้าวที่เกาะหมากรีสอร์ทเหมือนเดิมครับ อาหารที่เกาะนี้อร่อยครับ ยิ่งอาหารทะเล ผมเลี่ยนมาก กินทั้งอาทิตย์ หน้าจะเป็นปลาหมึกแล้วครับ ฮือๆ อยากกินส้มตำแก้เลี่ยน ก็ไม่มีซะนี่ แปลกจริง จังหวัดตราดไม่มีส้มตำขาย!!

IMG_7382-t

เอารูปที่พักมาให้ดูอีกรอบครับ ราคา 2,900 อัพ ครับ เก็บเงินเก็บทองไปเที่ยวกันเด้อ ฮ่าๆ

IMG_7400-t

เช้าวันใหม่ วันนี้เราจะเดินทางออกจากเกาะหมากแล้วนะครับ และใกล้ๆเกาะหมากก็มีเกาะส่วนตัวอยู่เกาะหนึ่ง ชื่อว่า “เกาะขาม” เกาะนี้น้ำก็ใสไม่แพ้กัน สวยเวอร์ๆ และมีหินภูเขาไฟโผล่มาด้วยครับ เกาะนี้ชาวจีนเชื่อว่ามีน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถ้าใครได้เอาน้ำนั้นมาลูบหน้า จะช่วยให้ทำมาค้าขึ้น โชคดีกับชีวิต จริงหรือไม่ผมไม่รู้ ต้องไปพิสูจน์กันเองครับ ค่าขึ้นเกาะ 100 บาท ส่วนค่าเรือ ต้องถามจากรีสอร์ทครับ ยืนยันว่าสวยจริง

IMG_7412

เป็นทริปที่ทำให้ผมถอนคำพูดเลยว่าทะเลอ่าวไทยสวยสู้อันดามันไม่ได้ทุกอย่าง คือมันสวยมาก จะแพ้ก็แค่เรื่องความขาวของหาดทราย และสีสันใต้ท้องทะเลที่อันดามันจะปะการังหลากสีกว่า แต่อย่างอื่น ไม่แพ้กัน

IMG_7432-t

กิจกรรมต่อมาคือออกไปดำน้ำครับ เริ่มต้นที่ “เกาะยักษ์เล็ก” เรือสปีดโบ้ทที่เราเช่าวันละ 19,000  บาท (ทริปไฮโซ) เป็นสปีดโบ๊ทแบบสองเครื่องยนต์ ถ้าหนึ่งเครื่องยนต์ก็ถูกกว่าครับ  พอไปจอดที่เกาะปุ๊บ เรือเร็วของเจ้าหน้าที่อุทยานหมู่เกาะรังก็บึ่งมาหาเราทันที มาทำไม? มาเก็บค่าที่ครับ ฮ่าๆ ถ้าผมจมน้ำ คุณจะบึ่งมาเร็วแบบนี้ไม๊ อยากรู้ เอิ้กๆ แซวเจ้าหน้าที่  ก็เสียค่าบำรุงอุทยานคนละ 40 บาทครับ สำหรับคนไทย บ่แพง เสียแล้วก็ว่ายได้ทุกเกาะแหละ จ่ายครั้งเดียว  ส่วนพวกกิจกรรมดำน้ำ ถ้ามาแบบจอยกรุ๊ป One Day Trip นั่งเรือใหญ่ ก็ตกคนละ 700-800 บาท ต่อวันครับ แต่ถ้ามีงบอยากมาส่วนตัว ก็เช่าเหมาเรือมาได้ครับ ราคาแล้วแต่จะตกลงกัน

12649

ภาพใต้ท้องทะเลนี้จากล้องพี่ใหญ่ ปลาเยอะมาก ฟินมาก คนชอบทะเลอย่างผม สนุกสุดๆ กระโดดลงน้ำตู้ม! แล้วก็ปล่อยกลายปล่อยใจว่ายไปกับฝูงปลา

12650

มันคือสวรรค์ชัดๆ น้ำใส มีปลามาแหวกว่ายอยู่รอบกาย

IMG_7453

ดำน้ำดูปลา ดูปะการังเสร็จ เจ้าหน้าที่ ททท. บอกว่า จะพาไปยังหาดที่น้อยคนนักจะได้ไปเยือน อั้ยย่ะ! ข้อเสนอแบบพรีเมียมอีกแล้ว มีเรอะเราจะพลาด ไปไหนก็ไปเลยลูกเพ่!

หาดที่ว่าเป็นหาดที่อยู่ใน “หมู่เกาะรัง” ครับ น้ำใสม้ากกกก หาดทรายก็ขาวมากกก อยู่ข้างหน้าเกาะสองพี่น้อง มันเหมือนหาดส่วนตัวจริงๆด้วย เพราะไม่มีใครมาเลย ผมก็ถามไปว่าทำไมไม่มีใครมา ก็ได้รับคำตอบว่า เพราะว่ามันไม่ได้อยู่ในแพกเกจทัวร์ ปกติคนมาเที่ยวจะมาเที่ยวแบบซื้อ One Day Trip เค้าก็จะไม่มีหาดนี้ในโปรแกรม ดังนั้นคนที่จะมาได้ก็คือพวกเหมาเรือมาเอง มิน่าหาดถึงได้ดูบริสุทธิ์มาก

IMG_7518

มองไปมองมาก็นึกว่าตัวเองอยู่มัลดิฟส์ (ไม่เคยไปมัลดิฟส์หรอกครับ มะโนจากภาพ ฮ่าๆ)

IMG_7579

ผมชอบชายหาดนี้ที่สุดเลย เพราะน้ำใส หาดสวย แถมคนไม่ค่อยมีด้วย ดูพรีเมียม จริงๆ แนะนำเลยครับ เก็บเงินเก็บทองมากันโลด

IMG_7611

สถานที่ต่อไป น้ำก็ใสไม่แพ้กันครับ และมีในโปรแกรมทัวร์แหละ ชื่อว่า “หาดศาลเจ้า” ที่นี่เราแวะมานั่งทานข้าวเที่ยงกัน ดำน้ำเหนื่อยๆ แล้วมานั่งทานข้าวริมทะเล ตามด้วยทานผลไม้ตามฤดูกาล อันได้แก่ แตงโม สับปะรด (ตามไปทุกฤดู) มันอร่อยอย่าบอกใครเชียว กินเสร็จก็แช่น้ำเบาๆ สบายใจ

IMG_7638

มันเป็นทริปที่ฟินจริงๆนะครับ เด็กอีสานอย่างผมยิ่งชอบน้ำทะเลอยู่แล้ว และทะเลไทยนี่แหละครับ สวยสุดแล้วในความคิดของผม ฮ่าๆ

IMG_7704

จากนั้นเราก็ไปดำน้ำกันต่อครับที่เกาะ “ยักษ์ใหญ่” ที่นี่มีอะไรให้ดูเยอะมาก ปลาก็เยอะมากด้วย เสร็จแล้วไปดำต่อที่เกาะ “มะปริง” สิ้นสุดด้วยเกาะ “แรด” ดำกันจนตัวดำไปเลย แล้วก็นั่งเรือบึ่งยาวไปยังเกาะต่อไป เกาะที่เค้าบอกว่าสวยที่สุดของตราด นั่นก็คือ “เกาะกูด” และ..มันก็สวยจริงๆ น้ำใสเวอร์อีกแล้ว

 

วันนี้เรามาพักบนเกาะกูดที่โรงแรมระดับไฮเอนด์ ราคาที่ตาสีตาสาอย่างผมให้ไปเองคงมิอาจเอื้อม ที่พักเริ่มต้นที่ 8,500 บาท ไปจนถึง 56,000 บาทครับ อ่านไม่ผิดครับ ตามนั้นทุกตัวอักษร ที่พักชื่อว่า Charm’s House มีโลเคชั่นดี ดูพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกสุดๆ

สืบเนื่องจากทริปนี้ไปเกือบหนึ่งอาทิตย์ ไปหลายที่มาก จะเล่าในหนึ่งตอนมันก็จะยาวเกินไป ขอตัดตอนยกยอดไปอีกตอนหน้านะครับ อย่าลืมติดตามชมเด้อ

จังหวัดตราด ไปให้ได้ครับ ที่พักที่พวกผมไปพักมันราคาหรู เพราะไปในนามแขกของ ททท. ถ้าพวกเราไปกันเองมันก็มีที่พักคืนละหลักร้อย หลักพันต้นๆอยู่ครับ 🙂

แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้า สวัสดีค้าบ

EN / FR

© Copyright BackpackStory.com.

Close